ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/APP1301

Facebook : CCT Fitness นำเข้าเครื่องออกกำลังกาย
Tel: 089-750-7380
สนใจชมตัวอย่างสินค้า >> https://goo.gl/maps/RBNaNTLmk8LD3T2A8

สั่งซื้อสินค้าได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/HHP0613

รับยิงแอด รับยิงแอดFacebook รับยิงแอดเฟสบุ๊ค รับทำการตลาดออนไลน์ รับทำโฆษณา รับดูแลเพจ
เข้าชมเว็บ>> https://www.kato-ads.com
Line: https://lin.ee/rq7hTju
Facebook: www.facebook.com/katoads

รับเขียนแบบ ปรึกษาฟรี
https://www.naaychang.com/

SME D Bank X DIPROM จัดกิจกรรม 'Quick Win เสริมแกร่ง SMEs ไทย ให้ดีพร้อม' ยกทัพ 'เติมทุนคู่พัฒนา' พาถึงสินเชื่อวงเงินกู้สูงสุด 50 ลบ. คู่บริการปรึกษาธุรกิจฟรี!ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank ร่วมกับ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ DIPROM กระทรวงอุตสาหกรรม จัดกิจกรรม "ผนึกกำลัง Quick Win เสริมแกร่ง SMEs ไทย ให้ดีพร้อม" วันอังคารที่ 25 กรกฎาคม 2566 เวลา 08.30-12.00 น. ณ ห้อง BSC ชั้น 1 กองพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กล้วยน้ำไท) พบกับบริการ "เติมทุนคู่พัฒนา" ยกระดับธุรกิจสู่ความยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นด้าน "การเงิน" พาเข้าถึงแหล่งเงินทุน เช่น สินเชื่อ "BCG Loan" สนับสนุนธุรกิจเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 4.75% ต่อปี วงเงินกู้สูงสุด 50 ล้านบาท และ สินเชื่อดีพร้อมเปย์ (DIProm Pay) เสริมสภาพคล่องธุรกิจ เดินหน้าไม่มีสะดุด อัตราดอกเบี้ย 3-5% ต่อปี เป็นต้น ควบคู่รับบริการด้าน "การพัฒนา" เช่น สัมมนาเพิ่มศักยภาพธุรกิจ ปรึกษาธุรกิจโดยโค้ชมืออาชีพจากโครงการ SME D Coach บริการตรวจสุขภาพทางธุรกิจ ด้วยระบบ Business Health Check คลินิกให้คำปรึกษาแนะนำเชิงลึก DIPROM PAY การเชื่อมโยงองค์ความรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตเพื่อมุ่งสู่อุตสาหกรรม4.0 คลินิกให้คำปรึกษาแนะนำบริการของ กน.กสอ. ประจำปี 2567 และ ตรวจเครดิตบูโร ฟรี! ที่สำคัญ ผู้เข้าร่วมสัมมนาได้รับ DIPROM Priority Card สิทธิพิเศษในการเข้ารับบริการต่างๆ ของ DIPROM และ SME D Bankสนใจร่วมเข้ากิจกรรม สแกน QR Code ในโปสเตอร์ประชาสัมพันธ์ ด่วนรับจำนวนจำกัด สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณณัฐพร (กน.กสอ.) โทร. 02-430-6881 หรือ คุณพรรณธิพา (SME D Bank) โทร. 02-265-4597

มาแล้วจ้า..หุ้นไอพีโอน้องใหม่ใสกิ๊กด้านไอทีอย่าง บมจ.ไอทู เอ็นเตอร์ไพรซ์ (I2) ภายใต้การบริหารของ "อธิพร ลิ่มเจริญ" ที่ตอนนี้พร้อมแล้วที่จะเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) หุ้นทรงไอทีแบบนี้ มาถูกที่ ถูกเวลา และจังหวะการเติบโตของธุรกิจด้านเทคโนโลยีไปกับ S Curve ของประเทศ เพื่อมุ่งสู่ "ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น" งานนี้.. บอกเลยว่าโปรไฟล์ไม่ธรรมดา เพราะที่ผ่านมาเป็นผู้ให้บริการเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร แบบครบวงจรชั้นนำ ให้แก่องค์กรภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ เช่น บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ ,กฟภ.,กฟน., กสทช. และอื่นๆ อีกมากมาย แค่ได้ยินแต่ละชื่อ ก็แซ่บแล้วจ้า..เอาเป็นว่าตอนนี้ I2 พร้อมแล้ว นักลงทุนเตรียมพร้อมลุ๊ย!

กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)) เดินหน้าจัดกิจกรรม Krungsri Business Talk สำหรับกลุ่มลูกค้าธุรกิจ ภายใต้หัวข้อ "Striving Green Businesses through Thailand Taxonomy" โดยได้รับเกียรติจากผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้บริหารระดับสูงจากองค์กรชั้นนำทั้งในระดับประเทศ และนานาชาติ มาร่วมแบ่งปันความรู้ ความเข้าใจ และประสบการณ์ต่างๆ เพื่อสร้างแต้มต่อในการพัฒนาด้านการเงินเพื่อความยั่งยืน (ESG Financing) รวมถึงฉายภาพทิศทางและโอกาสในการปรับตัว เพื่อร่วมผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนผ่านของธุรกิจไทยไปสู่ความยั่งยืนบทบาทของสถาบันการเงินไทย และ Thailand Taxonomyนายประกอบ เพียรเจริญ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่และวาณิชธนกิจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ได้ให้เกียรติเป็นประธานและกล่าวเปิดงาน โดยได้ให้มุมมองเกี่ยวกับกระแสการเงินเพื่อความยั่งยืนว่า แนวคิดเรื่อง ESG (สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล) มีความสำคัญต่อภาพรวมเศรษฐกิจ โดยเฉพาะมิติด้านสิ่งแวดล้อมถือเป็นวาระสำคัญของโลกที่ทุกภาคส่วนในหลากหลายประเทศพยายามผลักดัน ในฐานะสถาบันการเงินที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนสู่ระบบเศรษฐกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม กรุงศรีได้ร่วมสนับสนุนการร่างกรอบ Thailand Taxonomy ซึ่งถือเป็นวาระสำคัญของไทยที่ทุกภาคส่วนต้องศึกษาและทำความเข้าใจ โดยกรอบดังกล่าวจะถูกนำมาใช้อ้างอิงสำหรับการจำแนกและจัดกลุ่มกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยผลักดันภาคธุรกิจให้ปรับตัวและเปลี่ยนผ่านไปสู่ "ภาคธุรกิจสีเขียว" อย่างแท้จริงที่มา และความสำคัญของ Thailand Taxonomyด้าน นางสาวศิริพิมพ์ วิมลเฉลา ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์สถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้กล่าวถึงที่มาและความสำคัญของ Thailand Taxonomy ว่า มากกว่า 30% ของ GDP ภาคอุตสาหกรรมไทยยังคงเป็นอุตสาหกรรมที่ไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Brown Industry) ดังนั้นโจทย์สำคัญคือการเปลี่ยนผ่านไปสู่อุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมใน speed ที่เหมาะสม และมีอุปสรรคน้อยที่สุด ซึ่งแน่นอนว่าการมุ่งไปสู่ Green Economy 100% ในทันทีเป็นเรื่องยากและมีต้นทุนสูงมาก ดังนั้นทาง ธปท. และคณะทำงานจึงได้ผลักดันมาตรการขับเคลื่อน 5 ด้านเพื่อสนับสนุนและเร่งให้ภาคธุรกิจปรับตัวสู่ธุรกิจสีเขียวอย่างเป็นระบบ (5 Building Blocks) อันได้แก่ 1. การกำหนด Standard Practice 2. การร่วมจัดทำ Thailand Taxonomy 3. การพัฒนาฐานข้อมูล 4. การสร้างแรงจูงใจ และ 5. การพัฒนาองค์ความรู้สำหรับ Thailand Taxonomy เป็นเครื่องมือที่จะช่วยผู้ประกอบการปรับตัวในช่วงเปลี่ยนผ่าน โดยในเฟสแรกเน้นให้ความสำคัญกับภาคธุรกิจในสาขาพลังงานและคมนาคมขนส่ง เนื่องจากเป็นภาคอุตสาหกรรมที่ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์มากที่สุด โดยมุ่งเน้นในเรื่องการลดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change Mitigation) ทั้งนี้ เชื่อว่า Thailand taxonomy จะเป็นมาตรฐานเพื่อใช้อ้างอิงสำหรับการเข้าถึงตัวเงินทุนได้ง่ายขึ้น และส่งผลให้ Sustainable Finance หรือ การเงินเพื่อความยั่งยืนในประเทศไทยเติบโตได้อย่างรวดเร็วภาพรวมของการเงินเพื่อความยั่งยืนในระดับสากลด้าน Mr. Colin Chen, Head of ESG Finance, Asia Pacific, Asian Investment Banking Division, MUFG Bank, Ltd. กล่าวว่า ธุรกรรมทางการเงินด้าน ESG ในปี 2023 มีแนวโน้มขยายตัวสูง เนื่องจากนานาประเทศเริ่มหันมาพัฒนากรอบและกำหนดมาตรการต่างๆ เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่ตลาดการเงินสีเขียว ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากมาตรการความเข้มงวดต่างๆ ของภาคธุรกิจในกลุ่มประเทศผู้นำด้านธุรกิจสีเขียว เช่น ยุโรป ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจของเอเชียในอนาคตอันใกล้ โดยปัจจุบันมีเพียงญี่ปุ่นและจีนที่กระตือรือร้นและลงมืออย่างจริงจังในการจัดการด้าน Sustainable Finance ดังนั้นเชื่อว่า ในปีนี้ เราจะได้เห็นแนวโน้มการจัดทำ Taxonomy อีกมากในหลายประเทศเช่นเดียวกับในประเทศไทย และ Thailand Taxonomy จะเป็นก้าวสำคัญของการกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนผ่านสู่การดำเนินธุรกิจตามกรอบความยั่งยืนต่อไปกรุงศรี และการขับเคลื่อน Sustainable Financeด้าน นางสาวแจ่มจันทร์ ศิริกาญจนวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารฝ่ายธุรกิจหลักทรัพย์ตราสารหนี้ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปีที่ผ่านมาตราสารหนี้เพื่อความยั่งยืน หรือ ESG Bond เติบโตกว่า 2 แสนล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนกว่า 23% อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาจากจำนวนมูลค่าการออกตราสารหนี้ทั้งหมดในประเทศไทยกว่า 8.8 ล้านล้านบาท มีสัดส่วนของ ESG Bond เพียง 2.4% เท่านั้น แปลว่ายังมีโอกาสอีกมากที่เราจะสามารถเข้าไปช่วยสนับสนุนและผลักดันให้เกิดการปรับตัวและเปลี่ยนผ่านสู่การเป็น Green Activity ต่อไป โดยทางกรุงศรีมีแผนที่จะปล่อยสินเชื่อเพื่อสังคมและความยั่งยืน 50,000-100,000 ล้านบาทภายในปี 2573 ทั้งนี้ กรุงศรีได้ร่วมมือกับ Zeroboard ผู้เชี่ยวชาญด้านคลาวด์เทคโนโลยีในการดึงข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในกิจกรมต่างๆ ของธุรกิจและซัพพลายเชน เพื่อเป็นแนวทางในการให้สินเชื่อกลุ่มธุรกิจที่ให้ความสำคัญด้านความยั่งยืนมากขึ้นในการสัมมนาครั้งนี้ ยังได้รับเกียรติจากตัวแทนภาคธุรกิจ ได้แก่ นางสาวปาหนัน โตสุวรรณถาวร รองกรรมการผู้จัดการบัญชีและกรเงิน บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และ นายยงยุทธ เสฏฐวิวรรธน์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายการบริหารการเงินกลุ่มและศูนย์บริการร่วมทางการเงิน บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ที่มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ความสำเร็จในการดำเนินงานตามแนวทางการพัฒนาการเงินเพื่อความยั่งยืน โดยสรุปว่า การขับเคลื่อนเรื่องความยั่งยืนไม่ได้เป็นบทบาทหน้าที่ของหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งเท่านั้น แต่เป็นการทำงานร่วมกันของทุกภาคส่วนในองค์กร รวมไปถึง Supply Chain ต่างๆ ซึ่งในการดำเนินงานจำเป็นต้องอาศัยการเข้าถึงแหล่งเงินทุน ธนาคารจึงมีบทบาทสำคัญมากในการช่วยสนับสนุนทั้งเรื่องของความรู้ ความเข้าใจ ข้อมูลต่าง ๆ รวมถึงช่วยในการวิเคราะห์ เพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมทางการเงินเพื่อความยั่งยืนที่เหมาะสมให้กับบริษัท(สามารถติดตามรับฟังข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook: Krungsri Business Empowerment)ถึงแม้วันนี้ Taxonomy ยังเป็นเรื่องที่ค่อนข้างใหม่ที่สำหรับผู้ประกอบการไทย กรุงศรี ซึ่งเป็นสถาบันการเงินในกลุ่ม MUFG สามารถใช้ประโยชน์จากจุดแข็งเรื่องความเชี่ยวชาญและองค์ความรู้ในด้าน Sustainable Finance ที่เกิดจากประสบการณ์การทำงานร่วมกับหลากหลายภาคอุตสาหกรรมทั่วโลก ในการสนับสนุนผู้ประกอบการไทย ขณะเดียวกัน กรุงศรีพร้อมต่อยอดการดำเนินงานด้าน Sustainable Financing ให้มากยิ่งขึ้น เพื่อนำไปสู่การสร้างสรรค์นวัตกรรมทางการเงินเพื่อความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ กรุงศรียังได้ตั้งหน่วยงาน ESG Excellence เพื่อให้คำปรึกษาด้านการเงินเพื่อความยั่งยืนแก่ลูกค้าโดยเฉพาะ สิ่งเหล่านี้ล้วนสะท้อนถึงความมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนธุรกิจการเงินยั่งยืนไปด้วยกันกับผู้ประกอบการไทย รวมถึงความมุ่งมั่นดำเนินงานตามวิสัยทัศน์ด้านความยั่งยืนที่มุ่งสู่ "การเป็นธนาคารพาณิชย์ที่ยั่งยืนที่สุดในประเทศไทย" อีกด้วย

ราคาหุ้นซิตี้กรุ๊ป ซึ่งเป็นธนาคารใหญ่เป็นอันดับ 3 ของสหรัฐ เมื่อพิจารณาจากมูลค่าสินทรัพย์ พุ่งขึ้นในการซื้อขายก่อนเปิดตลาดหุ้นวอลล์สตรีท หลังเปิดเผยกำไรและรายได้สูงกว่าคาดในไตรมาส 2/2566ณ เวลา 19.11 น.ตามเวลาไทย ราคาหุ้นซิตี้กรุ๊ปพุ่งขึ้น 1.07% สู่ระดับ 48.19 ดอลลาร์ทั้งนี้ ซิตี้กรุ๊ป ระบุว่า ธนาคารมีกำไร 1.33 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 1.30 ดอลลาร์/หุ้นนอกจากนี้ ธนาคารมีรายได้ 1.944 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.929 หมื่นล้านดอลลาร์
 ดอลลาร์ฟื้นตัวขึ้นเทียบสกุลเงินหลัก หลังดิ่งลงอย่างหนักก่อนหน้านี้ แต่ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ยังคงปรับตัวต่ำกว่าระดับ 100ณ เวลา 19.16 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดอลลาร์ บวก 0.15% สู่ระดับ 99.92 ขณะที่ดอลลาร์ปรับตัวขึ้น 0.07% สู่ระดับ 1.122 เทียบยูโร และแข็งค่า 0.46% สู่ระดับ 138.66 เยนดัชนีดอลลาร์ร่วงลงสู่ระดับ 99.574 ในช่วงแรก ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 15 เดือนนอกจากนี้ ดัชนีดอลลาร์ดิ่งลง 2.4% ในสัปดาห์นี้ ทำสถิติปรับตัวลงรายสัปดาห์มากที่สุดในรอบ 8 เดือน ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ใกล้ยุติวงจรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่ต่ำกว่าคาดนักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกเพียง 1 ครั้งในปีนี้ ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้าล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 94.9% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 25-26 ก.ค. และให้น้ำหนักเพียง 5.1% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.00-5.25%นอกจากนี้ นักลงทุนให้น้ำหนัก 42.7% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 30-31 ม.ค.2567 โดยให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นจากระดับ 18.0% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) ให้การต้อนรับนายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ในฐานะประธานกรรมการสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ และผู้บริหารสถาบันการเงินของรัฐ ซึ่งเป็นกรรมการสมาคมฯ รวมถึง EXIM BANK ทั้งหมด 8 แห่ง พร้อมด้วยผู้แทนจากสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) และสมาคมธนาคารไทย ในการประชุมคณะกรรมการสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ ครั้งที่ 4/2566 เพื่อรายงานผลความคืบหน้าการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการและหารือเกี่ยวกับบทบาทและการดำเนินงานของสมาคมสถาบันการเงินของรัฐในการสนับสนุนภาคเศรษฐกิจและสังคมไทย ซึ่ง EXIM BANK เป็นเจ้าภาพจัดขึ้น ณ EXIM BANK สำนักงานใหญ่ เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2566ในการประชุม กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK ได้นำเสนอโครงการความร่วมมือระหว่างสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐที่จะส่งเสริมโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยโดยเฉพาะคนตัวเล็กในภาคธุรกิจ ให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนและการสร้างผู้ส่งออกรายใหม่ให้เข้าสู่ตลาดโลกเพิ่มมากขึ้น ประกอบด้วยโครงการ The S1 ซึ่งในเฟสแรกเป็นโครงการนำร่องระหว่าง EXIM BANK และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) และเฟสที่ 2 ได้ขยายความร่วมมือเพิ่มกับสถาบันการเงินของรัฐอีก 2 แห่ง คือ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME D Bank) และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) เพื่อพัฒนารูปแบบธุรกิจที่ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในการยกระดับการให้บริการและช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ให้ได้รับการสนับสนุนด้านเงินทุนที่สอดคล้องกับความต้องการทางธุรกิจอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ รวมทั้งโครงการสร้างผู้ประกอบการสินค้า Halal สู่การส่งออก 2023 ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง EXIM BANK และไอแบงก์ ในการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรม Halal สามารถส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศได้

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เฟสบุ๊ค : https://www.facebook.com/Professionals.Cutting.Table
Tel : 062-651-9697 
Line : rrw-1

สนใจฝากขายคอนโดลองมาคุยกันคะ

***สอบถามเพิ่มเติมได้ครับ ***
เครื่องแปลภาษาอัจฉริยะ, เครื่องแปลภาษา, เครื่องแปลภาษาด้วยเสียง, เครื่องแปลภาษาออฟไลน์
www.byartisgroup.com , line : @wisoodkrub, โทร 094-4636296

Facebook : CCT Fitness นำเข้าเครื่องออกกำลังกาย
Tel: 089-750-7380
สนใจชมตัวอย่างสินค้า >> https://goo.gl/maps/RBNaNTLmk8LD3T2A8

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/APP1301

***สนใจ  สอบถามได้คะ ***
โปรแกรมบัญชี,โปรแกรมระบบบัญชี,ระบบบัญชี,ระบบบัญชีสำเร็จรูป,โปรแกรมบัญชีสำเร็จรูป,โปรแกรมสต๊อค www.BossSME.com , www.Profit-Account.com  โทร 086-3775857,02-404-1805-07