มาเขียนรีวิว เพราะเพิ่งดูหนังจบไปสดๆร้อน EP 1- 8 วันเดียวรวดตั้งแต่เช้า
หลังจากที่ Netflix เพิ่งลงได้ไม่นาน ก่อนที่จะเข้าช่วงเทศกาลปีใหม่
โดยซีรีย์ The Witcher ถูกสร้างขึ้นจาก หนังสือนิยาย และถูกสร้างเป็นเกมชื่อดัง ก่อนจะถูก Netflix หยิบมาสร้าเป็นซีรีย์ขึ้น
โดยในขณะที่ Season 1 พึ่งจะปล่อยให้ดูทางออนไล์ไปไม่นาน ก่อนหน้านี้ ได้มีการประกาศสร้าง Season 2 แล้ว
โดยส่วนตัว ตัวผมเองไม่เคยอ่านทั้งนิยาย หรือเล่นเกมนี้มา แต่ที่มาดูเพราะพี่ซุปของผม
สลัดผ้าคลุมสีแดง มาใส่ชุดเทอะทะสะพายดาบเงินไว้ด้านหลัง พร้อมมีผมสีเงินมันงามยาวถึงบ่าอันเป็นเอกลักษณ์อยู่บนหัว
สำหรับผมแล้ว ผมว่าเฮียคาร์วินแกแสดงบท หมาป่าสีขาว ได้ดีเลยนะ
ทำให้เชื่อได้จริงๆ ว่าเนี่ย สำหรับผม ผมเห็นแกเป็นวิชเชอร์ที่ดูทรงพลัง ไม่เกรงกลัว และพร้อมที่จะต่อสู้กับทุกอันตรายที่เข้ามาจริงๆ
โดยวันนี้ก็มารีวิวชวนดูะนะครับ ขอไม่สปอยเนื้อเรื่องแล้วกันครับ
ส่วนตัวแล้ว สำหรับผม ผมชอบนะดูครั้งแรกก็ชอบเลย
คือต้องบอกก่อนว่าผมเป็นแนว ชอบเรื่องราวที่ตัวเอกเป็นพระเอก ที่เก่งสามารถแบกรับเรื่องต่างๆ ได้ดี
ซีรีย์บอกเล่าเรื่องราว การผจญภัยของ แกรอลแห่งลิเวียร์ ที่ร่อนเร่ คอยออกปราบสัตว์ประหลาด เพื่อแลกกับเงิน
ในระหว่างทาง พระเอกก็ไปพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆ ที่ถ่ายทออกออกมาให้เราได้เห็น
ที่แปลกใจก็คือ ไม่ว่าจะใครก็ตาม ต่างรู้จัก หมาป่าสีขาวผู้นี้ เรียกได้ว่า ใครที่ไม่รู้จักฉายา แกรอล แห่งลิเวียร์ผู้นี้
เรียกว่ามีน้อยมาก ในซีรีย์เรื่องนี้ เนื้อเรื่องก็จะเล่าถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่พระเอกไปเจอ ควบคู่ไปกับ อีก ตัวละครหลัก
อย่าง ซิริ และ เยนนิเฟอร์ ว่าสุดท้าย พวกเขาจะมีชะตากรรมร่วมกันอย่างไร
โดยถึงแม้พระเอกจะเป็นวิชเชอร์ แต่ก็ไม่ใช่ว่าเป็นผู้ไร้เทียมทาน วิชเชอร์ก็มีวันตาย ไม่ใช่จะอยุ่ยงคงกระพัน
และที่แตกต่างคือ หลายคนที่ไม่ได้อ่านนิยาย และเล่นเกมอย่างผม อาจคิดว่า เห้ยเนี่ยพระเอกเป็นนักล่าปีศาจ
พระเอกต้องเปรียบเสมือนวีระบุรุษของชาวบ้าน ไปใหนมาใหน ต้องมีคนยกย้องให้การต้อนรับ
แต่ขอบอกไว้ตรงนี้ว่าปล่าวเลย กลับกันกลับเป็นสิ่งที่ประชาชน ถึงแม้จะกลัวปีศาจแค่ใหน ก็รังเกียจวิชเชอร์ไม่แตกต่างกัน
ตรงนี้แหละ ที่มันทำให้บทพระเอก มันเหมือนพวก.รอง ที่มีแต่คนเชียร์ว่า บางครั้งพอทำดีแทบตาย
สุดท้ายกลายเป็นได้รับความเกลียดชังมา เหมือนเราเชียร์ตัวละครตัวนี้ ว่าสักวัน จะเป็นวันที่เขาได้รับการยอมรับ อย่างจริงจัง
จนผมดูๆไป ผมรู้สึกได้เลย จริงๆ ปีศาจอาจเกิดมาจากจิตใจของผู้คนมากกว่าจนน่ากลัวกว่าการเจอสัตว์ประหลาดซะอีก
อย่างบางตอน เห็นพระเอกโดนเหยียดจนผมอยากให้ แกรอลมันฟันพวกชาวบ้านพวกนี้ทิ้งๆ ไปซะรำใย 555+
แต่หลายอย่างทำออกมาได้ดีที่ใช้ การบอกเล่าเรื่องต่างๆ ผ่านการอธิบายโดยพระเอก
คือความรู้สึกที่มีต่อพระเอก มันคือแบบ เนี่ยตัวแบกเรื่องอยู่นี้ อะไรต่างๆ จะใช้พระเอกเป็นแม่เหล็กในการเล่าเรื่อง
แต่ในขณะเดียวกัน ก็พาเราตามไปดูเรื่องราว ความเป็นมาของ ซิริ และ เยนนิเฟอร์ ที่เป็น 2 ตัวละครหลักของเรื่องเช่นเดียวกัน
ผมว่ามันก็โอเคนะ บอกเล่าเรื่องราว ทั้งในแง่ของทั้งผู้ล่า ผู้ใฝ่คว้า และผู้ถูกล่า เป็นมุมมอง ที่ไม่ค่อยเห็นบ่อยนักดี
หลายคนอาจดูแรกๆแล้วมึนกับ ทามไลน์หากไม่เคยอ่านนิยายเช่นผม ผมคิดว่านะ แต่พอซักพักหลายๆสิ่ง หลายๆอย่างไหลมารวมกัน
ทุกท่านก็จะถึงบางอ้อเองครับ
องค์ประกอบ ดนตรี ฉากต่างๆ โดยส่วนเนื้อเรื่อง สำหรับผมดูแรกๆอาจงงบ้าง
ว่าชื่อนั้น ชื่อนี้ ใครว่ะ พูดถึงเรื่องอะไรอยู่ว่ะ หรือแบบ ในโลกของซีรีย์เรื่องนี้ มันมีพวกใหนบ้างว่ะ
คือดูแรกๆ บอกได้คำเดียว งงๆนิดๆ คล้ายๆตอนดู GOT ซีซั่นแรกเลย ว่ามันพูดถึงอะไรกันว่ะ แล้วพวกนี้มันมากจากใหนอะไรทำนองนั้น
แต่เรื่องนี้ น่าจะช่วยได้ เพราะจะต้องดูรอบ 2 แน่นอน 555+
สำหรับผมแล้ว ผมว่าซีรีย์เรื่องนี้ ทำออกมาได้ดี และน่าติดตามดูซีซั่นต่อไป ว่าสุดท้าย แกรอลจะทำอย่างไร จะเก่งไปถึงระดับใหน
จะต้องไปปราบปีศาจอะไรอีก จะต้องพบเจอเรื่องห่าเหวอะไรอีก ที่ต้องไปพัวพัน คอยตามลุ้น ตามเชียร์ เอาใจช่วยแหละครับ
ส่วนใครที่คิดว่า เรื่องนี้จะดีเทียบเท่า GOT หรือไม่ ผมคงบอกได้ตรงนี้เลยครับ ว่าเปรียบเทียบกันไม่ได้
ความแตกต่างของบท มีให้เราเห็นมาก เนื่องจาก หากคุณดู GOT คุณจะได้พบกับอรรถรส ของความหลากหลายของตัวละคร
คิดดูแล้วกัน ว่าใน ภาค 1 ตาจอนยังง่อยอยู่เลย เพิ่งมาแบกเนรรื่องในตอนหลังๆแล้ว
แต่ในขณะเดียวกัน TW กลับเน้นให้เราเห็นถึงความเก่งกาจ ประสิทธิภาพที่พระเอกทำได้ บอกเล่าเรื่องราว
ความสามารถ ที่เหล่าเดอะวิชเชอร์สามารถทำได้โดยมีพระเอกเป็นพรีเซนเตอร์
เหมือนคุณเอาตัวเองผู้กับตัวละครสักตัว แล้วเอาใจช่วยว่าเด๋วมันจะต้องไปเจอการผจญภัยอะไรบ้างวะ
เด๋วมันจะไปสร้างเรื่องบ้าบอใหญ่โตอะไรอีก แต่สิ่งหนึ่งที่ผมกล้าบอกได้เลยว่า พรเอกเรื่องนี้มีคือ ใจที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด
พระเอกมองแค่ว่า ตนคือผู้พเนจร ที่ไม่ยึดติด มองว่า ทุกสิ่งทุกอย่าง มีทั้งขาวและดำ ไม่ใช่เห็นปีศาจวิ่งแล้วจะฟันทิ้งอย่างเดียว
มีการอ่านสถาณการณ์ การมองความคิด หรือแม้กระทั้ง การคาดคะเนเหตุการณ์ต่างๆ ออกมาได้ดี
ว่าง่ายๆ แกรอล ไม่ง่อย แบบ จอนแน่นอน ตรงนี้แหละ ที่ใครหลายคน ชอบบทที่พระเอกคเก่งๆแบบผม ชอบนักแล
ที่ยก GOT มา เพราะผมก็ชอบ GOT มากๆเช่นกัน น่าจะทำให้เห็นภาพได้ง่ายสุด
อย่างที่กล่าวมาข้างต้น หากใครชอบซีรีย์ที่คอยลุ้นไปกับตัวละคร การที่ได้เห็นความสามารถแปลกๆ ที่นิยายสร้างขึ้นมากมาย
ผมแนะนำครับ ว่าซีรีย์เรื่องนี้ จะช่วยเปิดอรรถรสให้แก่ท่าน เปิดมุมมองใหม่ๆ ผสมกับ ซีจีย์ที่อยุ่ในระดับที่ดี
หากใครมีเวลาว่าง กำลังมองหาซีรีย์สักเรื่องดูยามว่าง ผมขอแนะนำเลยครับ เรื่องนี้อาจเป็นแนวที่คุณอาจถูกใจ อยากให้คุณลองเปิดใจดูครับ
ส่วนตัวผมให้ 8.5/10 ไปก่อนนะครับ เพราะผมยังมึนๆ กับพวกรายละเอียด ว่าตัวนี้คือใคร มาจากใหน
เพราะผมคิดว่าถ้าในนิยาย หรือเกม น่าจะบอกความสามารถออกมาได้ดี
หลังจากที่ Netflix เพิ่งลงได้ไม่นาน ก่อนที่จะเข้าช่วงเทศกาลปีใหม่
โดยซีรีย์ The Witcher ถูกสร้างขึ้นจาก หนังสือนิยาย และถูกสร้างเป็นเกมชื่อดัง ก่อนจะถูก Netflix หยิบมาสร้าเป็นซีรีย์ขึ้น
โดยในขณะที่ Season 1 พึ่งจะปล่อยให้ดูทางออนไล์ไปไม่นาน ก่อนหน้านี้ ได้มีการประกาศสร้าง Season 2 แล้ว
โดยส่วนตัว ตัวผมเองไม่เคยอ่านทั้งนิยาย หรือเล่นเกมนี้มา แต่ที่มาดูเพราะพี่ซุปของผม
สลัดผ้าคลุมสีแดง มาใส่ชุดเทอะทะสะพายดาบเงินไว้ด้านหลัง พร้อมมีผมสีเงินมันงามยาวถึงบ่าอันเป็นเอกลักษณ์อยู่บนหัว
สำหรับผมแล้ว ผมว่าเฮียคาร์วินแกแสดงบท หมาป่าสีขาว ได้ดีเลยนะ
ทำให้เชื่อได้จริงๆ ว่าเนี่ย สำหรับผม ผมเห็นแกเป็นวิชเชอร์ที่ดูทรงพลัง ไม่เกรงกลัว และพร้อมที่จะต่อสู้กับทุกอันตรายที่เข้ามาจริงๆ
โดยวันนี้ก็มารีวิวชวนดูะนะครับ ขอไม่สปอยเนื้อเรื่องแล้วกันครับ
ส่วนตัวแล้ว สำหรับผม ผมชอบนะดูครั้งแรกก็ชอบเลย
คือต้องบอกก่อนว่าผมเป็นแนว ชอบเรื่องราวที่ตัวเอกเป็นพระเอก ที่เก่งสามารถแบกรับเรื่องต่างๆ ได้ดี
ซีรีย์บอกเล่าเรื่องราว การผจญภัยของ แกรอลแห่งลิเวียร์ ที่ร่อนเร่ คอยออกปราบสัตว์ประหลาด เพื่อแลกกับเงิน
ในระหว่างทาง พระเอกก็ไปพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆ ที่ถ่ายทออกออกมาให้เราได้เห็น
ที่แปลกใจก็คือ ไม่ว่าจะใครก็ตาม ต่างรู้จัก หมาป่าสีขาวผู้นี้ เรียกได้ว่า ใครที่ไม่รู้จักฉายา แกรอล แห่งลิเวียร์ผู้นี้
เรียกว่ามีน้อยมาก ในซีรีย์เรื่องนี้ เนื้อเรื่องก็จะเล่าถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่พระเอกไปเจอ ควบคู่ไปกับ อีก ตัวละครหลัก
อย่าง ซิริ และ เยนนิเฟอร์ ว่าสุดท้าย พวกเขาจะมีชะตากรรมร่วมกันอย่างไร
โดยถึงแม้พระเอกจะเป็นวิชเชอร์ แต่ก็ไม่ใช่ว่าเป็นผู้ไร้เทียมทาน วิชเชอร์ก็มีวันตาย ไม่ใช่จะอยุ่ยงคงกระพัน
และที่แตกต่างคือ หลายคนที่ไม่ได้อ่านนิยาย และเล่นเกมอย่างผม อาจคิดว่า เห้ยเนี่ยพระเอกเป็นนักล่าปีศาจ
พระเอกต้องเปรียบเสมือนวีระบุรุษของชาวบ้าน ไปใหนมาใหน ต้องมีคนยกย้องให้การต้อนรับ
แต่ขอบอกไว้ตรงนี้ว่าปล่าวเลย กลับกันกลับเป็นสิ่งที่ประชาชน ถึงแม้จะกลัวปีศาจแค่ใหน ก็รังเกียจวิชเชอร์ไม่แตกต่างกัน
ตรงนี้แหละ ที่มันทำให้บทพระเอก มันเหมือนพวก.รอง ที่มีแต่คนเชียร์ว่า บางครั้งพอทำดีแทบตาย
สุดท้ายกลายเป็นได้รับความเกลียดชังมา เหมือนเราเชียร์ตัวละครตัวนี้ ว่าสักวัน จะเป็นวันที่เขาได้รับการยอมรับ อย่างจริงจัง
จนผมดูๆไป ผมรู้สึกได้เลย จริงๆ ปีศาจอาจเกิดมาจากจิตใจของผู้คนมากกว่าจนน่ากลัวกว่าการเจอสัตว์ประหลาดซะอีก
อย่างบางตอน เห็นพระเอกโดนเหยียดจนผมอยากให้ แกรอลมันฟันพวกชาวบ้านพวกนี้ทิ้งๆ ไปซะรำใย 555+
แต่หลายอย่างทำออกมาได้ดีที่ใช้ การบอกเล่าเรื่องต่างๆ ผ่านการอธิบายโดยพระเอก
คือความรู้สึกที่มีต่อพระเอก มันคือแบบ เนี่ยตัวแบกเรื่องอยู่นี้ อะไรต่างๆ จะใช้พระเอกเป็นแม่เหล็กในการเล่าเรื่อง
แต่ในขณะเดียวกัน ก็พาเราตามไปดูเรื่องราว ความเป็นมาของ ซิริ และ เยนนิเฟอร์ ที่เป็น 2 ตัวละครหลักของเรื่องเช่นเดียวกัน
ผมว่ามันก็โอเคนะ บอกเล่าเรื่องราว ทั้งในแง่ของทั้งผู้ล่า ผู้ใฝ่คว้า และผู้ถูกล่า เป็นมุมมอง ที่ไม่ค่อยเห็นบ่อยนักดี
หลายคนอาจดูแรกๆแล้วมึนกับ ทามไลน์หากไม่เคยอ่านนิยายเช่นผม ผมคิดว่านะ แต่พอซักพักหลายๆสิ่ง หลายๆอย่างไหลมารวมกัน
ทุกท่านก็จะถึงบางอ้อเองครับ
องค์ประกอบ ดนตรี ฉากต่างๆ โดยส่วนเนื้อเรื่อง สำหรับผมดูแรกๆอาจงงบ้าง
ว่าชื่อนั้น ชื่อนี้ ใครว่ะ พูดถึงเรื่องอะไรอยู่ว่ะ หรือแบบ ในโลกของซีรีย์เรื่องนี้ มันมีพวกใหนบ้างว่ะ
คือดูแรกๆ บอกได้คำเดียว งงๆนิดๆ คล้ายๆตอนดู GOT ซีซั่นแรกเลย ว่ามันพูดถึงอะไรกันว่ะ แล้วพวกนี้มันมากจากใหนอะไรทำนองนั้น
แต่เรื่องนี้ น่าจะช่วยได้ เพราะจะต้องดูรอบ 2 แน่นอน 555+
สำหรับผมแล้ว ผมว่าซีรีย์เรื่องนี้ ทำออกมาได้ดี และน่าติดตามดูซีซั่นต่อไป ว่าสุดท้าย แกรอลจะทำอย่างไร จะเก่งไปถึงระดับใหน
จะต้องไปปราบปีศาจอะไรอีก จะต้องพบเจอเรื่องห่าเหวอะไรอีก ที่ต้องไปพัวพัน คอยตามลุ้น ตามเชียร์ เอาใจช่วยแหละครับ
ส่วนใครที่คิดว่า เรื่องนี้จะดีเทียบเท่า GOT หรือไม่ ผมคงบอกได้ตรงนี้เลยครับ ว่าเปรียบเทียบกันไม่ได้
ความแตกต่างของบท มีให้เราเห็นมาก เนื่องจาก หากคุณดู GOT คุณจะได้พบกับอรรถรส ของความหลากหลายของตัวละคร
คิดดูแล้วกัน ว่าใน ภาค 1 ตาจอนยังง่อยอยู่เลย เพิ่งมาแบกเนรรื่องในตอนหลังๆแล้ว
แต่ในขณะเดียวกัน TW กลับเน้นให้เราเห็นถึงความเก่งกาจ ประสิทธิภาพที่พระเอกทำได้ บอกเล่าเรื่องราว
ความสามารถ ที่เหล่าเดอะวิชเชอร์สามารถทำได้โดยมีพระเอกเป็นพรีเซนเตอร์
เหมือนคุณเอาตัวเองผู้กับตัวละครสักตัว แล้วเอาใจช่วยว่าเด๋วมันจะต้องไปเจอการผจญภัยอะไรบ้างวะ
เด๋วมันจะไปสร้างเรื่องบ้าบอใหญ่โตอะไรอีก แต่สิ่งหนึ่งที่ผมกล้าบอกได้เลยว่า พรเอกเรื่องนี้มีคือ ใจที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด
พระเอกมองแค่ว่า ตนคือผู้พเนจร ที่ไม่ยึดติด มองว่า ทุกสิ่งทุกอย่าง มีทั้งขาวและดำ ไม่ใช่เห็นปีศาจวิ่งแล้วจะฟันทิ้งอย่างเดียว
มีการอ่านสถาณการณ์ การมองความคิด หรือแม้กระทั้ง การคาดคะเนเหตุการณ์ต่างๆ ออกมาได้ดี
ว่าง่ายๆ แกรอล ไม่ง่อย แบบ จอนแน่นอน ตรงนี้แหละ ที่ใครหลายคน ชอบบทที่พระเอกคเก่งๆแบบผม ชอบนักแล
ที่ยก GOT มา เพราะผมก็ชอบ GOT มากๆเช่นกัน น่าจะทำให้เห็นภาพได้ง่ายสุด
อย่างที่กล่าวมาข้างต้น หากใครชอบซีรีย์ที่คอยลุ้นไปกับตัวละคร การที่ได้เห็นความสามารถแปลกๆ ที่นิยายสร้างขึ้นมากมาย
ผมแนะนำครับ ว่าซีรีย์เรื่องนี้ จะช่วยเปิดอรรถรสให้แก่ท่าน เปิดมุมมองใหม่ๆ ผสมกับ ซีจีย์ที่อยุ่ในระดับที่ดี
หากใครมีเวลาว่าง กำลังมองหาซีรีย์สักเรื่องดูยามว่าง ผมขอแนะนำเลยครับ เรื่องนี้อาจเป็นแนวที่คุณอาจถูกใจ อยากให้คุณลองเปิดใจดูครับ
ส่วนตัวผมให้ 8.5/10 ไปก่อนนะครับ เพราะผมยังมึนๆ กับพวกรายละเอียด ว่าตัวนี้คือใคร มาจากใหน
เพราะผมคิดว่าถ้าในนิยาย หรือเกม น่าจะบอกความสามารถออกมาได้ดี