7 นิสัยของคนคบไม่ได้ คบไปก็คิดไม่ซื่อ แง่คิดเตือนสติ

[Chanapot]

1. พึงพอใจแต่ว่าเฉพาะเรื่องตัวเองมักจะโผล่มา เฉพาะในตอนที่อยากที่จะให้คนช่วยเสร็จและหายเข้ากลีบเมฆ

คนชนิดนี้เอาคำว่า "สหาย" หรือความเกี่ยวเนื่องต่างๆมาบังหน้าไว้เท่านั้นคุณลักษณะของคนพวกนี้แต่ไหนแต่ไร


ถ้าหากว่าไม่มีเรื่องอะไรที่ที่เขาปรารถนาความให้การช่วยเหลือเขาจะไม่โผล่ตัวมาหาคุณเลยยกตัวอย่ างเล็กๆได้แก่ เขาจะ เเ ช ท


ทักคุณมาก็ต่อเมื่อเขาเริ่มจะมีเรื่องให้คุณช่วยเท่านั้นกลุ่มบุคคลนี้มักเป็นผู้เห็นแก่ได้ฝ่ายเดียวซะด้วยสิและพอเพียงเขา

ใช้งานคุณเสร็จรวมทั้งหายตัวเข้าก้อนเมฆไปอย่ างเร็วทันใจ บุคคลกลุ่มนี้ขัดกับหนังสือเรียนเพื่อนพ้องที่ดีที่ได้กล่าวไว้ว่าคนช่วย

ต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันคนชนิดนี้ถ้าคุณพินิจดีๆว่าเวลาคุณต้องการความช่วยเหลือขึ้นมาบ้างบางคราว

เขาบางครั้งก็อาจจะไม่แสดงตัวเลยก็เป็นได้นะ

2. กระทำตนเป็น "งู เ ห่ า" เลี้ยงไม่เชื่อง

สมัยเด็กคุณคงจะเคยรับรู้นิทาน ก่อนนอนเรื่อง "กสิกรกับงู เ ห่ า" มาบ้างแล้วบางครั้งคุณไม่ได้โ ง่หรอกที่เมื่อพึ่ง

รู้จักกันช่วงแรกคุณมองดูไม่ออกว่าคนรอบกายคุณคนใดกันแน่เป็น "งู เ ห่ า" เนื่องจากว่าคุณเป็นคนดีคุณก็เมตตาคนชนิดนี้


ไปเรื่อยแม้กระนั้นคนชนิดนี้เว้นแต่เขาบางครั้งอาจจะไม่ได้ตอบแทนคุณด้วยการขอบคุณหือความรู้สึกที่ดีต่อคุณเขายังไป


ฉ ก กั ด คุณ มีความริษย า ในดวงใจจ้องจะทำร้ า ยคุณได้ผลสำเร็จทดแทน

3. ประพฤติตัวเป็น "นกสองหัว" ปากอย่ างดวงใจอย่ างหรือต่อหน้าอย่ างลับหลังอย่ าง

สำหรับบุคคลกลุ่มนี้แล้วต่อหน้าต่อตา เขาคุณจะเทียบเป็นเทวดาผู้ไ ร้ ร า คี เขาจะไม่มีวันเอาข้อ เ สี ย หรือสิ่งที่

เขาไม่ชอบใจมาพูดให้ท่านได้ฟัง ต่อหน้าแน่ๆแต่อย่ าได้เผลอเลยคนคนเดียวกันนี่เองลับหลังคุณเขาได้เอาคุณไป

บอกไปนินทาไปพูดถากถาง ไปสร้างเรื่องเป็นสิบเป็นร้อยเรื่องจนถึงกลายเป็นอีกหัวข้อที่คุณอาจไม่คิดมาก่อนก็ได้

4. ฉกฉวยผลตอบแทน อยู่ฝ่ายเดียวจ้องเอารัดเอาเปรียบไม่จบไม่สิ้น

บุคคลชนิดนี้มักจะแฝงมาในแบบอย่างสหายหรือคนคุ้นเคยต่างๆเข้ามาหาคุณ ใครกันแน่จะไปทราบดีว่าตามที่เป็นจริงแล้วเหตุผล

ที่เขาเข้าหาคุณนั้นเพียงแค่เพื่อจะมาเอาผลประโยชน์ จากคุณเพียงแค่นั้นซึ่งบางครั้งอาจจะเป็นทรัพย์สินที่คุณมีอยู่บางทีอาจจะเป็นแรงกาย

หรือทรัพย์สินทางปัญญาของคุณเพื่อโอน เข้าทางประโยชน์ของเขา มันคือเรื่องธรรดามากที่คนเราทุกคนเกิดมา

อย่ าง "น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า" ความหมายคือมนุษย์เราจำเป็นต้องพึ่งพาซึ่งกันย้ำอีกครั้ง "ซึ่งกันและกัน" แต่ว่าบุคคลนี้

กลับใช้คตินี้ตีความหมายผิดไป หรือไม่ก็แปลความไม่ครบเขากลับมองเห็นแม้กระนั้นผลดีที่คุณจะสามารถให้เขาได้ ใช้กลอุบาย

เพื่อเอารัดเอาเปรียบคุณส ารพัดแบบ สำคัญแต่ตัวจะรับไม่คิดถึงการให้โดยเบื้องหน้าเบื้อหลังของจิตใจคนเหล่านี้

บางบุคคลมิได้คิดแม้แต่จะหาทางตอบแทนคุณอย่ างใด

5. ไม่มีความ "เสมอภาค" ในมิตรภาพ มองไม่เห็นจุดสำคัญของอีกฝ่าย

คุณอาจสงสัยว่าเป็นบุคคลชนิดนี้ใดกัน บุคคลจำพวกนี้ก็คือบุคคลที่ชอบทำอะไรที่ไม่เป็นธรรม


ตัวอย่ างก็อย่างเช่นเวลาไหนที่บุคคลกลุ่มนี้มีเรื่องร้อนใจอย ากเเ ช ร์ก็ไปพบคุณได้ตลอดเวลาแม้กระนั้นพอคุณมีเรื่องมีราวจะต้อง

การกวนพรรณนาความทุกข์บ้างคุณกลับไม่สามารถที่จะไปพบคนคนนี้ได้เนื่องจากเขากลับมิได้ฟัง หรือ เขาบางทีอาจเรียกร้อง

ความเอื้อเฟื้อของคุณอยู่ฝ่ายเดียวดังเช่น ช่วยงานให้เขาหรือให้ท่านช่วยอะไรเขาต่างๆ แต่ว่าเมื่อถึงคราวของคุณบ้างคุณกลับ

ไม่ได้รับน้ำใจนั้นกลับมาประเด็นนี้มองผิวเผินอาจดูแล้วก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องที่ใหญ่กันสักเท่าไหร่น้อย แต่ว่ามันหมายความว่าโดยความเป็นจริงแล้วเขามิได้ดู

มองเห็นความสำคัญในตัวคุณมากมายที่คุณคิด

6. เป็นนักแต่งเรื่อง ชีวิตไม่อยู่บนฐานความจริง

บุคคลชนิดนี้มักถูกใจบอกเรื่องเท็จเป็นกิจจะลักษณะ ไม่สนใจว่าสิ่งที่ตัวเราเองได้ให้ข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง

ต่อคนอื่นๆไปแล้วฝ่ายตรงข้ามจะถูกคนในสังคมมองอย่างไร บุคคลชนิดนี้มักถูกใจพูดจาบิดเบือนเรื่องจริง

จนกระทั่งบางครั้งคุณก็น่าจะรู้สึกได้ด้วยตัวคุณเอง

7. เป็น ไม่ จ จ า ชี พ ในต้นแบบคนรู้จักกัน

บุคคลประเภทนี้อาจเข้ามาทำความรู้จักกับคุณเพราะเขาอยากบางอย่ างจากคุณแบบไม่ซื่อสัตย์เขาอาจ

เป็นมือลักขโมยในคราบของเพื่อน ไม่ว่าเป็นเงินทางตัวหรือทางปัญหาหรือไม่ก็หลอกหาผลประโยชน์

ด้วยวิธีแบบเดียวกับที่มิจฉาชีพเขาทำกัน สำหรับคนชนิดนี้แล้วเมื่อคุณต้องระมัดระวังตัวเมื่อเริ่มรู้สึกตัวว่ามีคน

จำพวกนี้เข้ามาในชีวิตทางที่ดีแนะนำให้ตีตัวออกห่างไปยิ่งไกลมากแค่ไหนก็ยิ่งดีหากคนที่อยู่รอบข้างของคุณหรือ

ขอให้ฉวยโอกาสนี้รวมไปให้ตัวคุณเองได้พิ จ า ร ณ า ตัวเองมีลักษณะนิสัยข้อใดที่เป็นอยู่จงรู้ไว้ว่า

เป็นนิสัยที่ไม่น่าคบ ถ้าเปลี่ยนแปลงได้ควรตั้งมั่นเปลี่ยนให้ดีตั้งแต่วันนี้ดีกว่าคุณจำเป็นต้องอย่ าลืมว่าคนที่มี

นิสัยดังที่กล่าวผ่านมาแล้วกลุ่มนี้นั้นต้องเชื่อว่าล้วนจะไม่เป็นผลดีต่อตัวของบุคคลคนนั้นเอง บุคคลอื่นบางครั้งก็อาจจะทราบไม่ถึง

ในหนแรกๆแต่ทุกคนล้วนแล้วแต่มี C o m m o n s e n s e เป็นของตัวเองที่จะรับทราบแล้วก็

พิจ า ร ณ า นิสัยชีวิตของบุคคลพวกนี้จะแส แ ส ร้ ง หรือทำนิสัยด้านลบพวกนี้ต่อผู้อื่นได้กี่ครั้งกันเชียว
คิดไม่ซื่อ
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13295/