• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Lali

#1

หากคุณต้องการเป็นเจ้าของธุรกิจ โดยไม่ต้องมีหุ้นส่วน วันนี้นรินทร์ทอง เราจะพามาหาคำตอบ  " จดบริษัทคนเดียว สามารถทำได้หรือไม่" รวมถึงแนวทางสำหรับใครที่ต้องการเปิดธุรกิจด้วยตัวคนเดียว
เรียนรู้แนวทางการ จดบริษัทคนเดียว แบบฉบับเต็มคลิกอ่านที่นี่


จดบริษัทคนเดียว ได้ไหมในประเทศไทย


ตามกฏหมายที่ออกมาในวันที่ 7 กุมภาพันธ์​ 2565 การจดทะเบียนบริษัทในประเทศไทยจำเป็นต้องมีผู้ถือหุ้นอย่างน้อย 2 คนตามข้อบังคับ เพราะปัจจุบันในประเทศไทยยังไม่มีการเปิดให้จดทะเบียนบริษัทคนเดียว

เหตุผลที่ต้องมีผู้ถือหุ้นมากกว่าหนึ่งคน


การแบ่งปันความเสี่ยง
  • การมีผู้ถือหุ้นมากกว่าหนึ่งคน ช่วยให้บริษัทสามารถแบ่งปันความเสี่ยงทางธุรกิจได้
ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ที่หลากหลาย
  • การมีหุ้นส่วนที่มีความสามารถในด้านต่าง ๆ เช่น การเงิน การตลาด หรือการจัดการ จะช่วยให้บริษัทสามารถพัฒนาตัวเองได้ในหลายมิติ
ความน่าเชื่อถือ
  • บริษัทที่มีผู้ถือหุ้นหลายคนอาจได้รับความน่าเชื่อถือมากขึ้นจากคู่ค้า นักลงทุน หรือสถาบันการเงิน
ข้อกำหนดทางกฎหมาย
  • การจัดตั้งบริษัทจำกัดตามกฎหมายของประเทศไทยต้องมีผู้ถือหุ้นอย่างน้อย 2 คน
อ่านเหตุผลของการที่ต้องมีผู้ถือหุ้นมากกว่าหนึ่งคน แบบฉบับเต็มคลิกอ่านที่นี่


ทางเลือกสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการดำเนินการ จดบริษัทคนเดียว


ถึงแม้การจดบริษัทคนเดียวจะไม่สามารถทำได้ แต่มีวิธีที่ผู้ประกอบการสามารถใช้เพื่อดำเนินการธุรกิจได้ คือ การจดทะเบียนบริษัท โดยแบ่งสัดส่วนการถือหุ้นกับผู้อื่น เช่น การให้ผู้ถือหุ้นที่เป็นเจ้าของบริษัทถือหุ้น 99% ของบริษัท ส่วนคนที่ 2 ถือหุ้น 1% เพื่อคงอำนาจการควบคุมและการดำเนินการที่เกือบจะสมบูรณ์อยู่กับคุณเอง


แนวโน้มในอนาคต
ถึงแม้ว่าปัจจุบันในไทยยังไม่สามารถจดบริษัทคนเดียวได้ แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงในอนาคต  โดยเฉพาะการเติบโตของผู้ประกอบการรายย่อย และ การเติบโตของธุรกิจดิจิทัลและออนไลน์ที่เป็นที่นิยม งแอดมินเองคาดว่าจำนวนของผู้ประกอบการออนไลน์เองก็จะมีจำนวนสูงขึ้น ทั้งนี้ในการจดทะเบียนในรูปแบบ บจค. หรือ บริษัทจำกัด (คนเดียว) อาจจะต้องร่างกฏหมายได้รับการอนุมัติ กันต่อไปครับ

หากผู้ประกอบการที่ต้องการศึกษา จดทะเบียนบริษัท เพิ่มเติม คลิกอ่านได้ที่นี่


สรุป
แม้ในปัจจุบันการจดทะเบียนบริษัทคนเดียวในประเทศไทย ยังไม่สามารถทำได้ แต่ผู้ประกอบการยังคงสามารถหาทางเลือกในการดำเนินธุรกิจคนเดียวได้ โดยการแบ่งสัดส่วนการถือหุ้นกับผู้อื่น สำหรับผู้ประกอบท่านไหนที่ต้องการปรึกษา บริษัท นรินทร์ทอง จำกัดสำนักงาน รับทำบัญชี และจัดทำงบการเงิน โดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านบัญชีและภาษี ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโต และมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น
  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ
 

สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่...
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339

#2


สำหรับใครที่กำลังศึกษาข้อมูล จดบริษัทค่าใช้จ่ายเท่าไร ต้องอ่านบทความนี้ นรินทร์ทอง จะช่วยคุณเจาะลึกรายละเอียด ค่าใช้จ่ายในการจดทะเบียนบริษัท  รวมถึงดำเนินการด้วยตัวเอง หรือ จ้างสำนักงานบัญชี แบบไหนคุ้มค่ากว่ากัน!
เรียนรู้วิธีการวางแผน ค่าใช้จ่ายก่อนรจดทะเบียนบริษัท เพิ่มเติมคลิกที่นี่

ควรจดทะเบียนบริษัทเมื่อไร


การจดทะเบียนบริษัท ทำให้เราเสียภาษีในฐานไม่เกิน 20% ช่วยให้เราประหยัดภาษีมากกว่าบุคคลธรรมดา ที่มีฐานภาษีสูงสุดถึง 35% แต่ก็ต้องแลกกับการดำเนินการเข้าระบบ จดบริษัท ทำบัญชี ยื่นภาษี ปิดงบการเงิน แอดมินมีคำถามสั้นๆที่จะช่วยเช็คความพร้อมของคุณ

คำถามข้อที่ 1: ธุรกิจของเรามีรายได้ หรือ อัตราภาษีที่ต้องเสียมากกว่าค่าใช้จ่ายในการเข้าระบบ เช่น ค่าใช้จ่ายในการจัดทำบัญชี ค่าใช้จ่ายในการปิดงบการเงิน และ อื่นๆ แล้วหรือยัง?
คำถามข้อที่ 2: คุณกำลังต้องการสร้างหลักฐานทางการเงินเพื่อขอสินเชื่อในอนาคตหรือไม่
คำถามข้อที่ 3: คุณพร้อมแยกบัญชีส่วนตัว กับบัญชีธุรกิจ อย่างเป็นระบบแล้วหรือยัง?
สำหรับใครที่อยากเตรียมความพร้อม ก่อนจดทะเบียนบริษัท คลิกอ่านที่นี่เลย

ค่าใช้จ่ายจดบริษัท ด้วยตัวเอง


  • ค่าจดทะเบียนบริคณห์สนธิ :มีอัตราค่าธรรมเนียมอยู่ 500 บาท
  • ค่าธรรมเนียมจดทะเบียนบริษัท:  มีอัตราค่าธรรมเนียมอยู่ที่ประมาณ 5,000 บาท
  • ค่าธรรมเนียมจดตราประทับ:  มีอัตราค่าธรรมเนียมอยู่ที่ประมาณ 500 บาท
  • ค่าธรรมเนียมหนังสือรับรองบริษัท: มีอัตราค่าธรรมเนียมรายการละ 40 บาท
  • ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียน:   มีอัตราค่าธรรมเนียมรายการละ 100  บาท
  • รับรองสำเนาการจดทะเบียน:    มีอัตราค่าธรรมเนียมหน้าละ  50   บาท

รวมค่าใช้จ่ายในการดำเนินในกรณีดำเนินการด้วยตัวเอง รวมทั้งสิ้น 6,190 บาท ทั้งนี้ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่นๆได้การดำเนินการเช่น ค่าเดินทาง ค่าทำตรายาง และ อื่นๆ


ค่าใช้จ่ายจดบริษัท กรณีจ้างจดทะเบียนนิติบุคคล


  • จดทะเบียนบริษัทออนไลน์: ผ่านเว็บกรมพัฒนาธุรกิจการค้าจะมีเรทค่าบริการอยู่ที่ 2500-5,000 บาท ไม่รวมค่าธรรมเนียม

  • จดทะเบียนบริษัท (Walk In): ในกรณีของการ Walk In ในกรณีนี้จะเริ่มที่ 3500 - 5000 บาทขึ้นไป ไม่รวมค่าธรรมเนียม รูปแบบ Walk In จะมีราคาสูงขึ้นจากออนไลน์เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายในการเดินทาง แต่ก็มีข้อดีในเรื่องระยะเวลาในการจดทะเบียนสามารถดำเนินการให้สำเร็จได้ใน 1 วัน

*ราคาในส่วนนี้จะขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการ โปรโมชั่นในแต่ละช่วงของสำนักงานบัญชีนั้นๆ*


จดทะเบียนบริษัทด้วยตัวเอง
ข้อดี:
  • ประหยัดค่าใช้จ่าย
  • ควบคุมทุกขั้นตอน
ข้อเสีย:
  • การเกิดข้อผิดพลาด
  • เสียเวลาในการดำเนินธุรกิจ
จ้างบริการจดทะเบียนบริษัท
ข้อดี:
  • สะดวกและรวดเร็ว
  • ลดความเสี่ยงข้อผิดพลาด
  • มีผู้เชี่ยวชาญคอยแนะนำ


ข้อเสีย:
  • มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
  • ไม่ได้เรียนรู้กระบวนการ
เรียนรู้ค่าใช้จ่ายในการจดบริษัทเพิ่มเติม คลิกอ่านบทความเต็มที่นี่

สรุป จดบริษัทค่าใช้จ่ายเท่าไร
การจดทะเบียนบริษัท เป็นขั้นตอนสำคัญที่ควรทำอย่างรอบคอบ หากคุณต้องการลดความยุ่งยากและให้การดำเนินการเป็นไปอย่างราบรื่น บริษัท นรินทร์ทอง จำกัด สำนักงาน รับทำบัญชี และจัดทำงบการเงิน โดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านบัญชีและภาษี ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโต และมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น
  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ
 

สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่...
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339
#3

ผู้ประกอบการท่านใดที่สนใจอยากลงทุนเปิดร้านขายยา แต่ไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มต้นยังไง บทความนี้ นรินทร์ทอง เราได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการวางแผนทำ บัญชีร้านขายยา มาให้ทุกคนได้ศึกษาก่อนเริ่มลงทุน เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถทำธุรกิจ ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย

ศึกษาก่อนเริ่มต้นทำธุรกิจร้านขายยา อ่านบทความเต็มได้ที่นี่



บัญชียาตามเงื่อนไขใบอนุญาตขายยา

  • บัญชีการขายยาควบคุมพิเศษ (ข.ย.7)
  • บัญชีการขายยาอันตราย เฉพาะรายการที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กำหนด (ข.ย.7)
  • บัญชีการขายยาตามใบสั่งยา ของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ผู้ประกอบโรคศิลปะ หรือผู้ประกอบการ
  • บำบัดโรคสัตว์ (ข.ย.9) (ทุกรายการ)
  • จัดทำรายงานการขายยา ตามประเภทที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยากำหนด ข.ย. 8 โดยให้เก็บบัญชีไว้เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 3 ปี


การทำธุรกิจเปิดร้านขายยา ต้องมีการวางแผนและดำเนินการอย่างละเอียดถี่ถ้วน เนื่องจากตลาดสุขภาพในปัจจุบัน มีการแข่งขันกันมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นการวางแผนทำบัญชีก่อนเปิดร้านขายยา จึงเป็นอีกหนึ่งแนวทางสำคัญที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการ ประสบความสำเร็จ โดยการวางแผนทำบัญชีร้านขายยาในนามนิติบุคคล จะมีวิธีการเตรียมตัว ดังนี้

  • ต้องจัดทำบัญชีให้ครบถ้วน ตามมาตรฐานการบัญชี
  • จัดให้มีผู้ทำบัญชี
  • ส่งมอบเอกสารประกอบการลงบัญชีให้แก่ผู้ทำบัญชี
  • ต้องปิดบัญชีครั้งแรกภายใน 12 เดือน
  • จัดทำงบการเงิน และจัดให้มีผู้สอบบัญชี
  • จัดนำส่งงบการเงิน
  • ต้องเก็บรักษาบัญชี และเอกสารที่ใช้ประกอบการลงบัญชี


อ่านรายละเอียด การวางแผนทำ บัญชีร้านขายยา เพิ่มเติมคลิกที่นี่


ต้นทุน ของร้านขายยา


หลังจากที่ได้ทราบถึงขั้นตอนการวางแผนทำบัญชีร้านขายยากันไปแล้ว ในส่วนนี้เรามาดู ต้นทุนของร้านขายยากันบ้าง โดยต้นทุนที่ต้องใช้ก่อนเริ่มเปิดธุรกิจร้านขายยา จะมีตั้งแต่

1. ค่าอุปกรณ์
2. ค่ายา ค่าอาหารเสริม และอุปกรณ์ทางการแพทย์
3. ค่าเช่าร้าน
4. ค่าจ้างเภสัชกร และพนักงานประจำร้าน
5. ค่าใช้จ่ายอื่นๆ


รายได้ ร้านขายยา


ในส่วนของ รายได้ร้านขายยา จะมาจากการขายยา และสินค้าภายในร้านเป็นหลัก โดยยาแต่ละกลุ่มจะได้กำไรไม่เท่ากัน โดยรายได้ของร้านขายยา หลักๆ จะแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่

1. รายได้หลัก ประกอบด้วย การขายยา, ค่าส่งเสริมการขาย และค่าบริการคัดกรองความเสี่ยง (ถ้ามี)
2. รายได้อื่น เช่น ดอกเบี้ย และอื่นๆ

ค่าใช้จ่าย ร้านขายยา


สำหรับค่าใช้จ่ายหลังจากที่เปิดร้านขายยาแล้ว จะมีทั้งค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหาร ซึ่งประกอบไปด้วย เงินเดือน, ค่าเช่า, ค่าน้ำประปา, ค่าไฟฟ้า, ค่าโทรศัพท์, ค่าใบประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม (Licensed Pharmacy), ค่าทำบัญชี, ค่าสอบบัญชี, ค่าเสื่อมราคาทรัพย์สิน และอื่นๆ ทั้งนี้ค่าตอบแทนเภสัชกร ขึ้นอยู่กับสวัสดิการของแต่ละร้าน

ในกรณีขอยาควบคุม และ ยาอันตราย

กรณียาควบคุม หรือ ยาอันตราย ต้องให้เภสัชกรเป็นผู้บันทึกรายการ ซึ่งจะต้องบันทึกจำนวนยา และบันทึกบัญชีพร้อมลงลายมือกำกับด้วยตนเอง และต้องสังเกตรายละเอียดของยาแต่ละตัวให้ดี เช่น ยาที่มีตัวยาทรามาดอล (Tramadol) เป็นส่วนประกอบในตำรับยาเดี่ยวและยาสูตรผสม, ยาที่มีตัวยาเดกซ์โตรเมธอร์แฟน (Dextromethorphan) เป็นส่วนประกอบในตำรับยาเดี่ยวและยาสูตรผสม, ยาที่มีตัวยาในกลุ่มแอนติฮีสตามีน ตำรับยาเดี่ยวและยาสูตรผสม เฉพาะที่เป็นยารูปแบบยาน้ำ 11 ตัวยา ได้แก่ (1) Brompheniramine (2) Carbinoxamine (3) Chlorpheniramine (4) Cyproheptadine (5) Dexchlorpheniramine (6) Dimenhydrinate (7) Diphenhydramine (8.) Doxylamine (9) Hydroxyzine (10) Promethazine (11) Triprolidine วิธีสังเกตยาที่กำหนดให้เป็น "ยาอันตราย" เบื้องต้นให้ดูที่แผง กล่อง หรือภาชนะบรรจุว่ามีคำว่า "ยาอันตราย" หรือไม่ หากยาที่ผู้บริโภคซื้อมีตัวยาเหล่านี้ ควรให้เภสัชกรเป็นผู้บันทึกรายการ และจำหน่ายโดยเภสัชกรอย่างถูกต้องตามกฎหมายกำหนด

ร้านขายยา กับ ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)
สำหรับกิจการร้านขายยา ที่มีรายรับจากการขายสินค้า หรือบริการเกินกว่า 1.8 ล้านบาทต่อปี ต้องยื่นคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มภายใน 30 วัน นับแต่วันที่มีรายรับเกิน และนำส่งให้กรมสรรพากรทุกๆ เดือน แต่ในกรณีที่เป็นร้านขายยาค้าปลีก สามารถออกใบกำกับภาษีอย่างย่อได้ และต้องจัดทำรายงานภาษีซื้อ ภาษีขาย รายงานสินค้า และวัตถุดิบ พร้อมนำส่งภาษี 7% (ภ.พ.30) ให้แก่กรมสรรพากรทุกวันที่ 15 ของเดือน

ถ้าไม่อยากพลาดแนวทางการวางแผน ก่อนเปิดร้านขายยาคลิกอ่านบทความเต็มที่นี่!




เตรียมพร้อมก่อนเปิดร้านขายยา ให้ นรินทร์ทอง ช่วยวางแผนทำบัญชี
สำหรับใครที่อ่านมาถึงตรงนี้จะเห็นว่า การทำ บัญชีร้านขายยา ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เป็นเรื่องที่ต้องใช้ความละเอียดอย่างมาก และเป็นข้อบังคับใช้ตามที่กฎหมายกำหนด เพราะฉะนั้นหากใครที่กำลังวางแผนเปิดร้านขายยาเป็นของตัวเอง แต่ไม่มีประสบการณ์ด้านการทำบัญชี หรือต้องการผู้ช่วยที่ทำให้การยื่นบัญชีและภาษี ในธุรกิจของคุณให้เป็นเรื่องง่ายขึ้น ขอแนะนำ บริษัท นรินทร์ทอง จำกัด สำนักงาน รับทำบัญชี และจัดทำงบการเงิน โดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านบัญชีและภาษี ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโต และมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น
สามาร
  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ
 

สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่...
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339
#4


สำหรับผู้ประกอบการคลินิกเสริมความงามท่านใด ที่กำลังศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับ ภาษีที่ต้องเสียหลังเปิดคลินิกเสริมความงาม เพราะมีข้อสงสัยว่า คลินิกความงามเสียภาษีอะไรบ้าง? ในบทความนี้ นรินทร์ทอง ได้รวบรวมคำตอบมาไว้ให้คุณแล้ว!

อยากเตรียมตัวให้พร้อมก่อนเปิดคลินิกเสริมความงาม อ่านเพิ่มเติมที่นี่


รายได้ ค่าใช้จ่าย หลังเปิดคลินิกเสริมความงาม


การประกอบธุรกิจคลินิกเสริมความงาม สามารถทำได้ทั้งในนามบุคคลธรรมดา และแบบจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่แนวทางการบริหารจัดการจะมีความแตกต่างกันบางส่วน ทั้งในเรื่องของรายได้ และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง ซึ่ง รายได้ และ ค่าใช้จ่าย ของกิจการคลินิกเสริมความงามหลักๆ ที่ต้องเสียจะมีรายละเอียดดังนี้
  • รายได้ - แบ่งเป็น 2 รูปแบบ ได้แก่ รายได้โดยตรง และ รายได้เสริมต่างๆ ยกตัวอย่างเช่น รายได้ที่เกี่ยวกับการศัลยกรรมใบหน้า หรือ การรักษาดูแลผิวพรรณ, ฉีดโบท็อกซ์ รวมถึงค่าบริการที่ปรึกษาแพทย์
  • ค่าใช้จ่าย - มีทั้งแบบเกี่ยวข้องกับกิจการโดยตรง และ ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอื่นๆ เช่น ค่าจ้างแพทย์ประจำ, แพทย์ Part-time, ผู้ช่วยแพทย์, เงินเดือนพนักงาน, ค่าเช่า, ค่าซ่อมแซม และอื่นๆ

ภาษีที่สำคัญ สำหรับคลินิกเสริมความงาม

นอกจากรายได้และค่าใช้จ่ายที่ได้อธิบายไว้ในข้างต้นแล้ว คลินิกเสริมความงามยังต้องเสียทั้งภาษีเงินได้อีกด้วย ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กับ ภาษีเงินได้นิติบุคคล ซึ่งมีดังนี้

ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา


สำหรับภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จะมีความซับซ้อนยุ่งยากกว่านิติบุคคล เนื่องจากรายได้ของคลินิกมีหลายช่องทาง โดยวิธีการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จะต้องนำรายได้ทั้งหมดตลอดปีมารวมคำนวณภาษี อัตราภาษีสูงสุด 35% โดยมีสูตรคำนวณ 2 แบบ คือ
แบบที่ 1 (รายได้ – ค่าใช้จ่าย – ค่าลดหย่อน) x อัตราภาษี = ภาษีที่ต้องจ่าย (สำหรับรายได้ไม่ถึง 1 ล้านบาทต่อปี)
แบบที่ 2 รายได้ (ยกเว้นเงินเดือน) x 0.5% (สำหรับรายได้เกิน 1 ล้านบาทต่อปี)
เมื่อได้ผลลัพธ์แล้ว ให้นำผลลัพธ์ที่ได้ตัวเลขมากกว่าไปยื่นภาษี ซึ่งผู้ประกอบการจะต้องยื่นแบบแสดงรายการเพื่อชำระภาษีเงินได้ปีละ 2 ครั้ง คือ ภาษีครึ่งปี (ภ.ง.ด.94) และ ภาษีสิ้นปี (ภ.ง.ด.90)

ภาษีเงินได้นิติบุคคล
ในส่วนของรายได้และค่าใช้จ่าย รวมถึงการเสียภาษีคลินิกเสริมความงาม ต้องคำนวณจากกำไรสุทธิหลังหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้ว โดยใช้วิธีคำนวณภาษีจากกำไรสุทธิ อัตราสูงสุด 20% พร้อมส่งงบการเงินให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และส่งภาษีให้กับกรมสรรพากร
เรียนรู้วิธีการเสียภาษีเงินได้ แบบบุคคลธรรมดา และ นิติบุคคล เพิ่มเติม คลิกที่นี่



ภาษีมูลค่าเพิ่ม สำหรับคลินิกเสริมความงาม
รายได้ที่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม
เป็นรายได้จากการประกอบกิจการสถานพยาบาล โดยกิจการต้องได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล ซึ่งได้ให้บริการแก่ผู้ป่วย ณ สถานประกอบการตามที่ระบุไว้ในใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล
รายได้ที่ไม่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม
คือรายได้อื่นๆ ของคลินิกเสริมความงาม ที่ได้รับโดยไม่ต้องมีข้อแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เช่น การขายอาหารเสริม การขายครีมบำรุง เป็นต้น
ทำความเข้าใจภาษีมูลค่าเพิ่ม สำหรับคลินิกเสริมความงาม เพิ่มเติม คลิกที่นี่


สรุป คลินิกความงามเสียภาษีอะไรบ้าง ให้ นรินทร์ทอง ช่วยวางแผน
หลังจากที่ได้ทราบถึงข้อมูลการเสียภาษีทั้ง 2 รูปแบบ ของคลินิกเสริมความงามแล้ว นอกจากเรื่องภาษีที่ทางเราได้อธิบายไว้ในข้างต้น ยังมีภาษีที่เกี่ยวข้องอีกมากมายที่ผู้ประกอบการต้องให้ความสำคัญ เพื่อให้ธุรกิจคลินิกเสริมความงามเป็นไปตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด หากผู้ประกอบการคลิกนิกความงามท่านใด ที่กำลังมองหาสำนักงานบัญชีได้มาตรฐาน จัดทำโดยผู้เชี่ยวชาญด้านบัญชีและภาษีโดยตรง ขอแนะนำ บริษัท นรินทร์ทอง จำกัด สำนักงาน รับทำบัญชี และจัดทำงบการเงิน โดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านบัญชีและภาษี ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโต และมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น
  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ
 

สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่...
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339
#5

การเลือก จดทะเบียนบริษัทด้วยตัวเอง ต้องมีความละเอียด รอบคอบเพื่อดำเนินการจดจัดตั้งบริษัทให้สำเร็จ แต่หากคุณไม่มีความรู้ และความเข้าใจในกระบวนการ บทความนี้ เราจะมาอธิบายขั้นตอน และเอกสารที่จำเป็น ในการจดทะเบียนบริษัทด้วยตัวเอง เพื่อช่วยให้คุณสามารถเริ่มต้นธุรกิจได้อย่างมั่นใจ

เรียนรู้ขั้นตอนการ จดทะเบียนบริษัทด้วยตัวเอง ฉบับเต็มคลิกอ่านที่นี่


ขั้นตอนการจดทะเบียนบริษัทด้วยตัวเอง

การจดทะเบียนบริษัทด้วยตัวเองสามารถทำได้ตามขั้นตอนต่อไปนี้:


ขั้นตอนที่ 1 จองชื่อบริษัท: นำชื่อบริษัทที่ทำการเตรียมไว้ ไปเช็คในระบบของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ตรวจสอบให้แน่ใจว่าชื่อที่เลือกไม่ซ้ำกับบริษัทอื่น
โดยสามารถจองได้ที่
 - กรมพัฒนาธุรกิจการค้าในเขตที่ประกอบกิจการ หรือในกรณีที่อยู่ต่างจังหวัดสามารถดำเนินการได้ที่ สำนักงานพาณิชย์ประจำจังหวัด
- และสามารถจองผ่านระบบออนไลน์ ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า https://reserve.dbd.go.th/

ขั้นตอนที่ 2 จัดทำหนังสือ บริคณห์สนธิ:เป็นหนังสือที่แสดงความต้องการจัดตั้งนิติบุคคลต่อรัฐ และ แสดงข้อมูลของบริษัทให้กับทางรัฐ โดยจะประกอบไปด้วย
1. ชื่อของบริษัท
2. ที่อยู่ของสำนักงานใหญ่
3. วัตถุประสงค์ของการจัดตั้งบริษัท (สามารถคลิกเพื่อดู หลักเกณฑ์การกำหนดวัตถุที่ประสงค์)
4. ทุนจดทะเบียน
5. ผู้ถือหุ้นของบริษัท
6. ชื่อ ที่อยู่ อาชีพ อายุ เลขที่บัตรประชาชน และจำนวนหุ้นที่ถือ
สำหรับที่ต้องการศึกษาขั้นตอนนี้เพิ่มเติมสามารถอ่านต่อได้ที่ หนังสือบริคณห์สนธิ-คือ

ขั้นตอนที่ 3 จัดการจองซื้อหุ้นบริษัท: ผู้จัดตั้งบริษัทต้องดำเนินการให้มีผู้ถือหุ้นจนครบตามหุ้นที่ระบุไว้ในหนังสือบริคณห์สนธิ ซึ่งผู้ถือหุ้นสามารถถือหุ้นขั้นต่ำได้ 1 หุ้น

ขั้นตอนที่ 4 จัดประชุมจัดตั้งบริษัท: ผู้ก่อตั้งจะต้องออกหนังสือให้ผู้ถือหุ้นทราบอย่างน้อย 7 วัน ก่อนวันประชุมจัดตั้ง

ขั้นตอนที่ 5 ผู้ถือหุ้นมอบหมายกิจการให้แก่กรรมการที่ได้รับการแต่งตั้ง:

กรรมการเรียกต้องชำระค่าหุ้น กับผู้ถือหุ้น อย่างน้อย 25 % ของทุนจดทะเบียน เพื่อนำเป็นหลักฐานแสดงแก่นายทะเบียน  เมื่อเก็บค่าหุ้นครบแล้วกรรมการมีหน้าที่ ยื่นจดทะเบียนด้วยตนเอง ซึ่งจะต้องไม่เกิน 3 เดือน จากวันที่ประชุมจัดตั้งบริษัท
ขั้นตอนที่ 6 จัดเตรียม และ ตรวจสอบเอกสารจดทะเบียนบริษัท
  • คำขอจดทะเบียนบริษัทจำกัด (แบบ บอจ.1)
  • แบบคำร้องขอจดทะเบียนบริษัท
  • รายการจดทะเบียนจัดตั้ง แบบ บอจ.3
  • รายละเอียดกรรมการ แบบ ก.
  • บัญชีผู้ถือหุ้น แบบ บอจ. 5
  • สำเนาหนังสือนัดประชุมจัดตั้งบริษัท
  • สำเนารายงานการประชุมจัดตั้ง
[/lis
t]
  • สำเนาหลักฐานการชำระหุ้นของผู้ถือหุ้น
  • สำเนาข้อบังคับ ชำระเงินค่าอาการแสตม์ จำนวน 200 บาท (ถ้ามี)

ขั้นตอนที่ 7 ยื่นคำขอจดทะเบียนบริษัท:
 ในขั้นตอนนี้สามารถเลือก ยื่นคำขอจดทะเบียนได้ 2 รูป แบบ Walk in และ แบบออนไลน์
ยื่นเอกสารแบบ (Walk in) นำเอกสารทั้งหมดที่เตรียมไว้ไปยื่นที่ สำนักงานกรมพัฒนาธุรกิจการค้า 
ยื่นเอกสารผ่านระบบออนไลน์ ในขั้นตอนนี้สามารถทำผ่านทางเว็บไซต์ DBD e-Registeration
 โดยสามารถอ่านวิธีการดำเนินการจดทะเบียนออนไลน์ได้ที่ วิธีการจดทะเบียนบริษัทออนไลน์ ค่าธรรมเนียม
  • ค่าจดทะเบียน: ขึ้นอยู่กับทุนจดทะเบียนของบริษัท (มักอยู่ที่ประมาณ 5,000 บาทสำหรับทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท)
  • หนังสือรับรอง: รายการละ 40 บาท
  • ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียน :ใบละ 100 บาท
  • รับรองสำเนาเอกสารสำหรับทดทะเบียน: หน้าละ 50 บาท

อยากจดทะเบียนบริษัทด้วยตัวเอง แต่ไม่อยากพลาด คลิกอ่านบทความเต็มที่นี่


จ้างจดทะเบียนบริษัท หรือ จดทะเบียนบริษัทด้วยตัวเอง


  • ค่าใช้จ่าย:การดำเนินการด้วยตัวเองจะประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่า หากดำเนินการได้สำเร็จ แต่หากเราดำเนินการผิดพลาด ก็อาจทำให้เกิดค่าใช้จ่ายมากขึ้น
  • การจัดเตรียมเอกสาร:

สำหรับสำนักงานบัญชี สามารถเตรียมเอกสาร และตรวจความถูกต้องเรียบร้อยของเอกสาร ซึ่งจะช่วยลดความผิดพลาดในการยื่นจดทะเบียนบริษัทได้

แต่สำหรับใครที่ดำเนินการเอง ก็อาจต้องใช้เวลาและความพยายามในการทำความเข้าใจขั้นตอนต่าง ๆ ซึ่งมีโอกาสเกิดความพลาดสูงกว่าการ จ้างสำนักงานบัญชี

  • ระยะเวลาในการดำเนินการ สำหรับเจ้าของกิจการที่ต้องการดำเนินการด้วยตัวเอง จะต้องใช้เวลาในการศึกษาขั้นตอนต่างๆ นานพอสมควร แต่ถ้าหากจ้างสำนักงานบัญชี จะช่วยประหยัดเวลา ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า

สรุปแล้ว จ้างจดทะเบียนบริษัท หรือ จดทะเบียนบริษัทด้วยตัวเอง แบบไหนดี? อ่านเพิ่มเติมที่นี่


สรุป
การจดทะเบียนบริษัทด้วยตัวเองเป็นทางเลือกที่ดี สำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย แต่อย่างไรก็ตาม หากคุณต้องการจ้างจดทะเบียนบริษัท หรือไม่ต้องการเผชิญกับความยุ่งยาก บริษัท นรินทร์ทอง จำกัด สำนักงาน รับทำบัญชี และจัดทำงบการเงิน โดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านบัญชีและภาษี ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโต และมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น

  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ
 

สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่...
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339
[/list]
#6

การ เปลี่ยนชื่อบริษัท สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็น การปรับเปลี่ยนทิศทางธุรกิจ หรือการรีแบรนด์เพื่อสร้างภาพลักษณ์ใหม่ แต่การเปลี่ยนชื่อบริษัท จำเป็นต้องดำเนินการตามขั้นตอนอย่างถูกต้อง ซึ่งบทความนี้ นรินทร์ทอง จะช่วยให้คุณทราบถึงเอกสารที่ต้องใช้ ขั้นตอนการเปลี่ยนชื่อบริษัท และข้อมูลที่เกี่ยวข้อง จะเป็นอย่างไรบ้างตามไปดูกัน!

นรินทร์ทอง แชร์ข้อมูล ก่อนเปลี่ยนชื่อบริษัท แบบละเอียด คลิกอ่านบทความเต็มได้ที่นี่


เอกสารที่ต้องใช้เปลี่ยนชื่อบริษัท


1. แบบรับรองการจดทะเบียนบริษัท
2. แบบคำขอจดทะเบียนบริษัท (แบบ บอจ.1)
3. แก้ไขหนังสือบริคณห์สนธิ(แบบ บอจ.2)
4. แบบแก้ไขเพิ่มเติม และ มติพิเศษ (แบบ บอจ.4)
5. ใบแจ้งผลการการจองชื่อนิติบุคคล สำหรับชื่อใหม่ที่จะใช้ในการดำเนินกิจการ
6. หนังสือบริคณห์สนธิฉบับแก้ไข พร้อมอากรแสตมป์ 50 บาท
7. สำเนาบัตรประชาชน ของกรรมการบริษัทที่ลงนามในแบบคำขอ
8. หนังสือมอบอำนาจ ในกรณีที่กรรมการไม่ได้ดำเนินการด้วยตัวเอง

ขั้นตอนการ เปลี่ยนชื่อบริษัท
1. จัดประชุมผู้ถือหุ้น
2. จองชื่อบริษัทที่ต้องการ ผ่านกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
3. ยื่นคำขอจดทะเบียน
4. ตรวจสอบและอนุมัติโดยเจ้าหน้าที่ หลังจากนั้นจะออกหนังสือรับรองการเปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่
5. ประกาศการเปลี่ยนชื่อแก่ลูกค้า คู่ค้า และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
อยากรู้รายละเอียด ขั้นตอนการ เปลี่ยนชื่อบริษัท แบบละเอียด คลิกอ่านบทความเต็มได้ที่นี่

เปลี่ยนชื่อบริษัท สามารถดำเนินการได้ที่ไหน
  • สำหรับบริษัทที่มีสำนักงานใหญ่ที่กรุงเทพ
  • สำหรับบริษัทที่มีสำนักงานใหญ่ในต่างจังหวัด
  • ผ่านระบบออนไลน์ e-Registration

เปลี่ยนชื่อบริษัท มีค่าธรรมเนียมอย่างไร
  • ค่าธรรมเนียมแก้ไขชื่อบริษัท: ประมาณ 500 บาท ถึง 1,000 บาท
  • หนังสือรับรอง: รายการละ 40 บาท
  • ใบสำคัญการแจ้งจดทะเบียน: ฉบับละ 100 บาท
  • รับรองสำเนาเอกสารคำรับรองจดทะเบียน: หน้าละ 50 บาท

การเปลี่ยนชื่อบริษัท ไม่ยากอย่างที่คิด ถ้าได้อ่านบทความเต็มๆ ของนรินทร์ทอง สนใจคลิก


สรุป
การเปลี่ยนชื่อบริษัท เป็นกระบวนการที่ต้องมีการวางแผน และจัดเตรียมเอกสารให้ครบถ้วน หากคุณต้องการความช่วยเหลือ ในการเปลี่ยนชื่อบริษัท เราขอแนะนำบริษัท นรินทร์ทอง จำกัด สำนักงาน รับทำบัญชี และจัดทำงบการเงิน โดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านบัญชีและภาษี ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโต และมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น

  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ
 

สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่...
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339
#7

1. ให้บริการมามากกว่า 20 ปี
2. ผ่านหลักสูตรจาก DBD
3. ให้บริการด้านบัญชี และ ภาษีครบวงจร
4. บริการและใส่ใจลูกค้า

สนใจทำบัญชี กับ นรินทร์ทอง คลิกที่นี่เลย


ขั้นตอนการทำบัญชี รับทำบัญชี กับ Narinthong มีขั้นตอนดังนี้

1. รับเอกสาร ตรวจสอบเอกสาร ติดตามเอกสารที่ได้รับให้ครบถ้วนพร้อม สำหรับการทำบัญชี

2. ให้คำปรึกษาก่อนเริ่มบันทึกบัญชี แนะนำแนวทางการบันทึกบัญชี เพื่อประหยัดภาษี ให้ถูกต้องตามกฎหมาย
 
3. เริ่มทำบันทึกบัญชี  รายเดือน รายปี จัดทำรายละเอียดเพื่อให้รู้ผลประกอบการ โครงสร้างของธุรกิจ เพื่อดำเนินธุรกิจในระยะยาว พร้อมทั้งทำข้อมูลประกอบการปิดงบการเงิน

4. ตรวจสอบความถูกต้อง  ของเอกสารทางบัญชี รายการที่บันทึกบัญชี และแนะนำการลงค่าใช้จ่ายเพื่อประหยัดภาษี

5. ส่งงบให้ผู้สอบบัญชี ให้ผู้สอบให้ความเห็นต่องบการเงินที่เกิดขึ้น เพื่อให้ได้มาตราฐาน และ มีความน่าเชื่อถือ ผ่านผู้สอบบัญชีมืออาชีพ *ราคาในดำเนินการสอบบัญชีไม่รวมในค่าทำบัญชี*

6. นำส่งงบการเงิน ช่วยผู้ประกอบการส่งงบการเงินแก่สรรพากร ให้คำปรึกษาและแก้ปัญหาในด้านบัญชี และ ภาษี พร้อมทั้งให้คำปรึกษาในกรณีที่เกิดปัญหา

อ่านรายละเอียด ขั้นตอนการทำบัญชี เพิ่มเติม ได้ที่นี่


ขอบเขตการ รับทำบัญชี ที่เราให้บริการ

บริการทำบัญชีครบวงจร ครอบคลุมทุกด้าน

  • ทางสำนักงานบัญชีให้คำปรึกษาแนะนำ การออกเอกสารที่เกี่ยวข้องกับบัญชีอย่างเป็นระบบ เช่น การออกแบบ ใบแจ้งหนี้ ใบกำกับ ใบเสร็จ รับ เงิน ใบสำคัญรับ-จ่าย เพื่อให้ได้มาตรฐาน

  • รับเอกสารจากทางลูกค้า โดยลูกค้าสามารถทำจัดการจัดส่งผ่านไปรษณีย์ หรือส่งทางขนส่งมาตรฐานให้กับทางสำนักงานบัญชีนรินทร์ทอง หากประสงค์ส่งในรูปแบบออนไลน์สามารถแสกนผ่านข้อมูลผ่านทาง Google Drive หรือ โปรแกรมบัญชีที่รองรับ *ในกรณีที่ต้องการส่งเอกสารมายัง สำนักงานสามารถใช้บริการเรียกรถผ่านแอพพลิเคชั่น ตามค่าใช้จ่ายจะถูกคิดตามระยะทางจริง*

  • โดยทางสำนักงานจะตรวจสอบความถูกต้องของเอกสาร ก่อนการเริ่มทำการบันทึกบัญชี

  • เรามีบริการทำบัญชีครบวงจรที่ครอบคลุมทุกด้าน ของการจัดการบัญชีสำหรับธุรกิจของคุณ

  • จัดทำภาษีเงินเดือน ภงด 1 และ ภาษีหัก ณ ที่ จ่าย ภงด.3 ภงด.53

  • จัดทำแบบประกันสังคม และ ยื่นแบบทางอินเตอร์เน็ต

  • จัดทำภาษีมูลค่าเพิ่ม และ ยื่น ภพ 30 กับสรรพากร

  • จัดทำรายงานภาษีซื้อ-ภาษีขาย ประจำเดือน

  • ทำการปิดบัญชี ส่งงบการเงินประจำปี


จัดทำรายละเอียด ประกอบงบการเงิน

  • รายละเอียดทรัพย์สิน

  • รายละเอียดเจ้าหนี้ ลูกหนี้

  • รายงานสินค้าคงเหลือ (ในกรณีที่ลูกค้าต้องการรายงานสินค้าคงเหลือ จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม)


ยื่นเอกสารกรมพัฒนาธุรกิจการค้า(DBD)

  • ยื่นงบการเงิน และ สบช.3

  • ยื่นบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น บอจ.5


ยื่นเอกสารกรมสรรพากร

  • ประมาณการและยื่น ภ.ง.ด.51 (ภาษีกลางปี)

  • จัดทำและยื่น ภ.ง.ด.50 (ภาษีเงินได้นิติบุคคล)



ราคาค่าบริการ รับทำบัญชี และค่าบริการที่เกี่ยวกับบัญชีเพิ่มเติม

เอกสารทางบัญชี 1-50 ชุด
 3,500 บาท / เดือน

  • ทำบัญชีรายเดือนตามมาตราฐานการบัญชีที่รับรองทั่วไป

  • จัดทำเอกสารประกอบการลงบัญชี เช่น สมุดรายวัน แยกประเภทตามมาตราฐานที่กฎหมายกำหนด

  • จัดทำงบการเงินประจำปี พร้อมนำส่งกรมสรรพากร และ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า


เอกสารทางบัญชีชุดที่ 51-100 ชุด
4,500 บาท / เดือน

  • ทำบัญชีรายเดือนตามมาตราฐานการบัญชีที่รับรองทั่วไป

  • จัดทำเอกสารประกอบการลงบัญชี เช่น สมุดรายวัน แยกประเภทตามมาตราฐานที่กฎหมายกำหนด

  • จัดทำงบการเงินประจำปี พร้อมนำส่งกรมสรรพากร และ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า


เอกสารทางบัญชีชุดที่ 151-200 ชุด
5,500 บาท / เดือน

  • ทำบัญชีรายเดือนตามมาตราฐานการบัญชีที่รับรองทั่วไป

  • จัดทำเอกสารประกอบการลงบัญชี เช่น สมุดรายวัน แยกประเภทตามมาตราฐานที่กฎหมายกำหนด

  • จัดทำงบการเงินประจำปี พร้อมนำส่งกรมสรรพากร และ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า


เอกสารทางบัญชีชุดที่ 201-250 ชุด
6,500 บาท / เดือน

  • ทำบัญชีรายเดือนตามมาตราฐานการบัญชีที่รับรองทั่วไป

  • จัดทำเอกสารประกอบการลงบัญชี เช่น สมุดรายวัน แยกประเภทตามมาตราฐานที่กฎหมายกำหนด

  • จัดทำงบการเงินประจำปี พร้อมนำส่งกรมสรรพากร และ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า


หมายเหตุ : ไม่รวมค่าจัดส่งเอกสาร EMS , ค่าใช้ในการเดินทางรับเอกสาร , ค่าธรรมเนียม และ ภาษี

มองหาสำนักงานบัญชีมากประสบการณ์ แนะนำ นรินทร์ทอง คลิกเพื่ออ่านบทความเต็มได้ที่นี่

#8

1. ให้บริการมามากกว่า 20 ปี
2. ผ่านหลักสูตรจาก DBD
3. ให้บริการด้านบัญชี และ ภาษีครบวงจร
4. บริการและใส่ใจลูกค้า

สนใจทำบัญชี กับ นรินทร์ทอง คลิกที่นี่เลย


ขั้นตอนการทำบัญชี รับทำบัญชี กับ Narinthong มีขั้นตอนดังนี้

1. รับเอกสาร ตรวจสอบเอกสาร ติดตามเอกสารที่ได้รับให้ครบถ้วนพร้อม สำหรับการทำบัญชี

2. ให้คำปรึกษาก่อนเริ่มบันทึกบัญชี แนะนำแนวทางการบันทึกบัญชี เพื่อประหยัดภาษี ให้ถูกต้องตามกฎหมาย
 
3. เริ่มทำบันทึกบัญชี  รายเดือน รายปี จัดทำรายละเอียดเพื่อให้รู้ผลประกอบการ โครงสร้างของธุรกิจ เพื่อดำเนินธุรกิจในระยะยาว พร้อมทั้งทำข้อมูลประกอบการปิดงบการเงิน

4. ตรวจสอบความถูกต้อง  ของเอกสารทางบัญชี รายการที่บันทึกบัญชี และแนะนำการลงค่าใช้จ่ายเพื่อประหยัดภาษี

5. ส่งงบให้ผู้สอบบัญชี ให้ผู้สอบให้ความเห็นต่องบการเงินที่เกิดขึ้น เพื่อให้ได้มาตราฐาน และ มีความน่าเชื่อถือ ผ่านผู้สอบบัญชีมืออาชีพ *ราคาในดำเนินการสอบบัญชีไม่รวมในค่าทำบัญชี*

6. นำส่งงบการเงิน ช่วยผู้ประกอบการส่งงบการเงินแก่สรรพากร ให้คำปรึกษาและแก้ปัญหาในด้านบัญชี และ ภาษี พร้อมทั้งให้คำปรึกษาในกรณีที่เกิดปัญหา

อ่านรายละเอียด ขั้นตอนการทำบัญชี เพิ่มเติม ได้ที่นี่


ขอบเขตการ รับทำบัญชี ที่เราให้บริการ

บริการทำบัญชีครบวงจร ครอบคลุมทุกด้าน

  • ทางสำนักงานบัญชีให้คำปรึกษาแนะนำ การออกเอกสารที่เกี่ยวข้องกับบัญชีอย่างเป็นระบบ เช่น การออกแบบ ใบแจ้งหนี้ ใบกำกับ ใบเสร็จ รับ เงิน ใบสำคัญรับ-จ่าย เพื่อให้ได้มาตรฐาน

  • รับเอกสารจากทางลูกค้า โดยลูกค้าสามารถทำจัดการจัดส่งผ่านไปรษณีย์ หรือส่งทางขนส่งมาตรฐานให้กับทางสำนักงานบัญชีนรินทร์ทอง หากประสงค์ส่งในรูปแบบออนไลน์สามารถแสกนผ่านข้อมูลผ่านทาง Google Drive หรือ โปรแกรมบัญชีที่รองรับ *ในกรณีที่ต้องการส่งเอกสารมายัง สำนักงานสามารถใช้บริการเรียกรถผ่านแอพพลิเคชั่น ตามค่าใช้จ่ายจะถูกคิดตามระยะทางจริง*

  • โดยทางสำนักงานจะตรวจสอบความถูกต้องของเอกสาร ก่อนการเริ่มทำการบันทึกบัญชี

  • เรามีบริการทำบัญชีครบวงจรที่ครอบคลุมทุกด้าน ของการจัดการบัญชีสำหรับธุรกิจของคุณ

  • จัดทำภาษีเงินเดือน ภงด 1 และ ภาษีหัก ณ ที่ จ่าย ภงด.3 ภงด.53

  • จัดทำแบบประกันสังคม และ ยื่นแบบทางอินเตอร์เน็ต

  • จัดทำภาษีมูลค่าเพิ่ม และ ยื่น ภพ 30 กับสรรพากร

  • จัดทำรายงานภาษีซื้อ-ภาษีขาย ประจำเดือน

  • ทำการปิดบัญชี ส่งงบการเงินประจำปี


จัดทำรายละเอียด ประกอบงบการเงิน

  • รายละเอียดทรัพย์สิน

  • รายละเอียดเจ้าหนี้ ลูกหนี้

  • รายงานสินค้าคงเหลือ (ในกรณีที่ลูกค้าต้องการรายงานสินค้าคงเหลือ จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม)


ยื่นเอกสารกรมพัฒนาธุรกิจการค้า(DBD)

  • ยื่นงบการเงิน และ สบช.3

  • ยื่นบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น บอจ.5


ยื่นเอกสารกรมสรรพากร

  • ประมาณการและยื่น ภ.ง.ด.51 (ภาษีกลางปี)

  • จัดทำและยื่น ภ.ง.ด.50 (ภาษีเงินได้นิติบุคคล)



ราคาค่าบริการ รับทำบัญชี และค่าบริการที่เกี่ยวกับบัญชีเพิ่มเติม

เอกสารทางบัญชี 1-50 ชุด
 3,500 บาท / เดือน

  • ทำบัญชีรายเดือนตามมาตราฐานการบัญชีที่รับรองทั่วไป

  • จัดทำเอกสารประกอบการลงบัญชี เช่น สมุดรายวัน แยกประเภทตามมาตราฐานที่กฎหมายกำหนด

  • จัดทำงบการเงินประจำปี พร้อมนำส่งกรมสรรพากร และ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า


เอกสารทางบัญชีชุดที่ 51-100 ชุด
4,500 บาท / เดือน

  • ทำบัญชีรายเดือนตามมาตราฐานการบัญชีที่รับรองทั่วไป

  • จัดทำเอกสารประกอบการลงบัญชี เช่น สมุดรายวัน แยกประเภทตามมาตราฐานที่กฎหมายกำหนด

  • จัดทำงบการเงินประจำปี พร้อมนำส่งกรมสรรพากร และ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า


เอกสารทางบัญชีชุดที่ 151-200 ชุด
5,500 บาท / เดือน

  • ทำบัญชีรายเดือนตามมาตราฐานการบัญชีที่รับรองทั่วไป

  • จัดทำเอกสารประกอบการลงบัญชี เช่น สมุดรายวัน แยกประเภทตามมาตราฐานที่กฎหมายกำหนด

  • จัดทำงบการเงินประจำปี พร้อมนำส่งกรมสรรพากร และ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า


เอกสารทางบัญชีชุดที่ 201-250 ชุด
6,500 บาท / เดือน

  • ทำบัญชีรายเดือนตามมาตราฐานการบัญชีที่รับรองทั่วไป

  • จัดทำเอกสารประกอบการลงบัญชี เช่น สมุดรายวัน แยกประเภทตามมาตราฐานที่กฎหมายกำหนด

  • จัดทำงบการเงินประจำปี พร้อมนำส่งกรมสรรพากร และ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า


หมายเหตุ : ไม่รวมค่าจัดส่งเอกสาร EMS , ค่าใช้ในการเดินทางรับเอกสาร , ค่าธรรมเนียม และ ภาษี

มองหาสำนักงานบัญชีมากประสบการณ์ แนะนำ นรินทร์ทอง คลิกเพื่ออ่านบทความเต็มได้ที่นี่

#9



หากธุรกิจของคุณเริ่มมีรายได้และผลกำไรสูง ควรมีการจดทะเบียนบริษัทเกิดขึ้น แต่ผู้ประกอบการหลายท่านอาจจะยังไม่แน่ใจว่า ต้องมีรายได้เท่าไหร่ ถึงควร จดทะเบียนบริษัท ? วันนี้ นรินทร์ทอง ได้นำข้อมูลเกี่ยวกับการจดทะเบียนบริษัทมาฝากทุกคนในบทความนี้! 
อยากรู้รายละเอียดการ จดทะเบียนบริษัท เพิ่มเติม คลิกที่นี่

เมื่อไรควร จดทะเบียนบริษัท


หากกิจการของคุณเริ่มมีเงินได้สุทธิ (รายได้หลังจากหักค่าใช้จ่าย) มากกว่า 750,000 บาทขึ้นไป ควรจดทะเบียนบริษัททันที


รายได้ และ อัตราภาษี


การจดทะเบียนบริษัทควรเริ่มทำเมื่อเจ้าของธุรกิจมีเงินได้สุทธิ (รายได้หลังจากหักค่าใช้จ่าย) 750,000 บาทขึ้นไป ถ้าคุณเป็นบุคคลธรรมดาที่มีรายได้สุทธิมากเท่านี้ จะเสียภาษีถึง 35% แต่ถ้าจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท จะเสียภาษีเงินได้เพียง 20% 

เรียนรู้การคำนวณรายได้ และอัตราภาษีเพิ่มเติม คลิกที่นี่


ตัวอย่างการคำนวณรายได้ และ อัตราภาษี แบบนิติบุคคล กับ แบบบุคคลธรรมดา


การคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล

วิธีการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล มีสูตรการคำนวณ คือ (รายได้ – ค่าใช้จ่าย) = กำไรสุทธิ จากนั้นนำกำไรสุทธิที่ได้ มาคิดภาษีตามอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล (ทั้งนี้ถ้าหากมีได้กำไร 0 - 300,000 จะได้รับการยกเว้นภาษี 15%)

ยกตัวอย่าง: หากรายได้ทั้งปีมีจำนวน 2,225,000 บาท จะมีวิธีการคำนวณภาษี ดังนี้
Step 1: รายได้ขายสินค้า 2,225,000 - รายจ่าย 1,900,000 บาท = กำไรทางบัญชี 325,000 บาท

Step 2: กำไรทางบัญชี 325,000 บาท - รายการปรับปรุงทางภาษี 0 บาท = กำไรทางภาษี 325,000 บาท

Step 3: กำไรทางบัญชี 325,000 บาท - 3 ล้าน = ภาษีที่ต้องชำระ 3,750 บาท

การคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จะมีวิธีการคำนวณโดยแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ

แบบที่ 1 (รายได้ - ค่าใช้จ่าย - ค่าลดหย่อน) x อัตราภาษี = ภาษีที่ต้องจ่าย หากมีรายได้ประจำช่องทางเดียว อัตราภาษีจะเป็นแบบอัตราขั้นบันได ตั้งแต่ 5 – 35%

แบบที่ 2  (รายได้ทุกประเภท - เงินเดือน) x 0.5% ในกรณีที่มีรายได้ช่องทางอื่น นอกจากรายได้ประจำหรือเงินเดือนตั้งแต่ 120,000 บาทขึ้นไป คิดภาษีแบบเหมา
โดยจะต้องคำนวณภาษีทั้งแบบอัตราขั้นบันได และอัตราเหมา เพื่อนำมาเทียบกันแล้วเลือกยอดภาษีที่ต้องเสีย โดยคิดจากยอดภาษีที่สูงกว่า

หมายเหตุ: หากคำนวณด้วยวิธีคิดแบบเหมาแล้ว มีภาษีที่ต้องเสียทั้งสิ้นไม่เกิน 5,000 บาท จะได้รับการยกเว้นภาษีในวิธีนี้

ยกตัวอย่าง: หากรายได้ทั้งปีมีจำนวน 2,225,000 บาท เลือกหักค่าใช้จ่ายแบบขั้นบันได จะมีวิธีการคำนวณภาษี ดังนี้

Step 1: รายได้ขายสินค้า 2,225,000 - รายจ่าย 1,900,000 บาท - ค่าลดหย่อนภาษี = เงินได้สุทธิ

Step 2: เงินได้สุทธิ x อัตราภาษีขั้นบันได 30% (รายได้ 2M - 5M ขั้นบันได 30%) = ภาษีที่ต้องจ่าย


ค่าใช้จ่าย และความรับผิดชอบที่มากขึ้น หลัง จดทะเบียนบริษัท



  • การเทียบค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นในการทำบัญชี
หากต้องการเทียบค่าใช้จ่ายในการทำบัญชี ต้องดูว่าในนามบุคคลธรรมดาคุณเสียภาษีสูงสุดเท่าไหร่ในช่วง 5%-35% จากนั้นนำมาเทียบกับค่าใช้จ่ายในการทำบัญชี

  • การเก็บเอกสาร
1. ใบแจ้งหนี้ / ใบกำกับภาษี / ใบเสร็จรับเงิน / หนังสือรับรองหัก ณ ที่จ่าย (ที่กิจการให้ลูกค้า)
2. ใบแจ้งหนี้ / ใบกำกับภาษี / ใบเสร็จรับเงิน / หนังสือรับรองหัก ณ ที่จ่าย (ที่ได้รับจากคู่ค้า)
3. Bank Statement หรือสมุดบัญชีธนาคาร
4. รายงานสรุปการจ่ายเงินเดือนพนักงาน (กรณีมีพนักงาน)
5. การใช้บริการจ่ายค่าเช่าจากบริษัท / บุคคลอื่น
6. เอกสารสัญญาทุกชนิด
7. รายงานสินค้าคงเหลือ


ถ้าคุณอยากรู้รายละเอียด หลังจดทะเบียนบริษัท เพิ่มเติมคลิกเลย



ข้อดีของการ จดทะเบียนบริษัท รู้ก่อนไม่มีพลาด!

  • จ่ายภาษีน้อยกว่าบุคคลธรรมดา
  • ปีไหนธุรกิจขาดทุนก็ไม่ต้องเสียภาษี
  • มีความน่าเชื่อถือกว่า
  • ขยายธุรกิจได้ง่ายกว่า

หลังจากที่จดทะเบียนบริษัทเป็นนิติบุคคลแล้ว เจ้าของธุรกิจอย่าลืมที่จะให้ความสำคัญกับการทำบัญชีและภาษี โดยพิจารณาเลือกสำนักงานบัญชีที่มีประสบการณ์ เราขอแนะนำ บริษัท นรินทร์ทอง จำกัด สำนักงาน รับทำบัญชี และจัดทำงบการเงิน โดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านบัญชีและภาษี ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโต และมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น
  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ

สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่...
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339




#10



หากธุรกิจของคุณเริ่มมีรายได้และผลกำไรสูง ควรมีการจดทะเบียนบริษัทเกิดขึ้น แต่ผู้ประกอบการหลายท่านอาจจะยังไม่แน่ใจว่า ต้องมีรายได้เท่าไหร่ ถึงควร จดทะเบียนบริษัท ? วันนี้ นรินทร์ทอง ได้นำข้อมูลเกี่ยวกับการจดทะเบียนบริษัทมาฝากทุกคนในบทความนี้! 
อยากรู้รายละเอียดการ จดทะเบียนบริษัท เพิ่มเติม คลิกที่นี่

เมื่อไรควร จดทะเบียนบริษัท


หากกิจการของคุณเริ่มมีเงินได้สุทธิ (รายได้หลังจากหักค่าใช้จ่าย) มากกว่า 750,000 บาทขึ้นไป ควรจดทะเบียนบริษัททันที


รายได้ และ อัตราภาษี


การจดทะเบียนบริษัทควรเริ่มทำเมื่อเจ้าของธุรกิจมีเงินได้สุทธิ (รายได้หลังจากหักค่าใช้จ่าย) 750,000 บาทขึ้นไป ถ้าคุณเป็นบุคคลธรรมดาที่มีรายได้สุทธิมากเท่านี้ จะเสียภาษีถึง 35% แต่ถ้าจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท จะเสียภาษีเงินได้เพียง 20% 

เรียนรู้การคำนวณรายได้ และอัตราภาษีเพิ่มเติม คลิกที่นี่


ตัวอย่างการคำนวณรายได้ และ อัตราภาษี แบบนิติบุคคล กับ แบบบุคคลธรรมดา


การคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล

วิธีการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล มีสูตรการคำนวณ คือ (รายได้ – ค่าใช้จ่าย) = กำไรสุทธิ จากนั้นนำกำไรสุทธิที่ได้ มาคิดภาษีตามอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล (ทั้งนี้ถ้าหากมีได้กำไร 0 - 300,000 จะได้รับการยกเว้นภาษี 15%)

ยกตัวอย่าง: หากรายได้ทั้งปีมีจำนวน 2,225,000 บาท จะมีวิธีการคำนวณภาษี ดังนี้
Step 1: รายได้ขายสินค้า 2,225,000 - รายจ่าย 1,900,000 บาท = กำไรทางบัญชี 325,000 บาท

Step 2: กำไรทางบัญชี 325,000 บาท - รายการปรับปรุงทางภาษี 0 บาท = กำไรทางภาษี 325,000 บาท

Step 3: กำไรทางบัญชี 325,000 บาท - 3 ล้าน = ภาษีที่ต้องชำระ 3,750 บาท

การคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จะมีวิธีการคำนวณโดยแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ

แบบที่ 1 (รายได้ - ค่าใช้จ่าย - ค่าลดหย่อน) x อัตราภาษี = ภาษีที่ต้องจ่าย หากมีรายได้ประจำช่องทางเดียว อัตราภาษีจะเป็นแบบอัตราขั้นบันได ตั้งแต่ 5 – 35%

แบบที่ 2  (รายได้ทุกประเภท - เงินเดือน) x 0.5% ในกรณีที่มีรายได้ช่องทางอื่น นอกจากรายได้ประจำหรือเงินเดือนตั้งแต่ 120,000 บาทขึ้นไป คิดภาษีแบบเหมา
โดยจะต้องคำนวณภาษีทั้งแบบอัตราขั้นบันได และอัตราเหมา เพื่อนำมาเทียบกันแล้วเลือกยอดภาษีที่ต้องเสีย โดยคิดจากยอดภาษีที่สูงกว่า

หมายเหตุ: หากคำนวณด้วยวิธีคิดแบบเหมาแล้ว มีภาษีที่ต้องเสียทั้งสิ้นไม่เกิน 5,000 บาท จะได้รับการยกเว้นภาษีในวิธีนี้

ยกตัวอย่าง: หากรายได้ทั้งปีมีจำนวน 2,225,000 บาท เลือกหักค่าใช้จ่ายแบบขั้นบันได จะมีวิธีการคำนวณภาษี ดังนี้

Step 1: รายได้ขายสินค้า 2,225,000 - รายจ่าย 1,900,000 บาท - ค่าลดหย่อนภาษี = เงินได้สุทธิ

Step 2: เงินได้สุทธิ x อัตราภาษีขั้นบันได 30% (รายได้ 2M - 5M ขั้นบันได 30%) = ภาษีที่ต้องจ่าย


ค่าใช้จ่าย และความรับผิดชอบที่มากขึ้น หลัง จดทะเบียนบริษัท



  • การเทียบค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นในการทำบัญชี
หากต้องการเทียบค่าใช้จ่ายในการทำบัญชี ต้องดูว่าในนามบุคคลธรรมดาคุณเสียภาษีสูงสุดเท่าไหร่ในช่วง 5%-35% จากนั้นนำมาเทียบกับค่าใช้จ่ายในการทำบัญชี

  • การเก็บเอกสาร
1. ใบแจ้งหนี้ / ใบกำกับภาษี / ใบเสร็จรับเงิน / หนังสือรับรองหัก ณ ที่จ่าย (ที่กิจการให้ลูกค้า)
2. ใบแจ้งหนี้ / ใบกำกับภาษี / ใบเสร็จรับเงิน / หนังสือรับรองหัก ณ ที่จ่าย (ที่ได้รับจากคู่ค้า)
3. Bank Statement หรือสมุดบัญชีธนาคาร
4. รายงานสรุปการจ่ายเงินเดือนพนักงาน (กรณีมีพนักงาน)
5. การใช้บริการจ่ายค่าเช่าจากบริษัท / บุคคลอื่น
6. เอกสารสัญญาทุกชนิด
7. รายงานสินค้าคงเหลือ


ถ้าคุณอยากรู้รายละเอียด หลังจดทะเบียนบริษัท เพิ่มเติมคลิกเลย



ข้อดีของการ จดทะเบียนบริษัท รู้ก่อนไม่มีพลาด!

  • จ่ายภาษีน้อยกว่าบุคคลธรรมดา
  • ปีไหนธุรกิจขาดทุนก็ไม่ต้องเสียภาษี
  • มีความน่าเชื่อถือกว่า
  • ขยายธุรกิจได้ง่ายกว่า

หลังจากที่จดทะเบียนบริษัทเป็นนิติบุคคลแล้ว เจ้าของธุรกิจอย่าลืมที่จะให้ความสำคัญกับการทำบัญชีและภาษี โดยพิจารณาเลือกสำนักงานบัญชีที่มีประสบการณ์ เราขอแนะนำ บริษัท นรินทร์ทอง จำกัด สำนักงาน รับทำบัญชี และจัดทำงบการเงิน โดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านบัญชีและภาษี ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโต และมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น
  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ

สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่...
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339
#11



การจะเปิดโรงพยาบาลสัตว์ขึ้นมาสักแห่ง เจ้าของกิจการจำเป็นต้องพิจารณาถึงปัจจัยต่างๆ ที่มีผลต่อโรงพยาบาลสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของต้นทุน รายได้ รวมถึงค่าใช้จ่ายส่วนอื่นๆ สิ่งเหล่านี้ล้วนต้องมีการวางแผนจัด ทำบัญชีโรงพยาบาลสัตว์ ขึ้นมา วันนี้ทางเรา นรินทร์ทอง บริษัท รับทำบัญชี จึงไม่พลาดที่จะนำเสนอเรื่องที่ต้องรู้เกี่ยวกับ หลักการทำบัญชีของโรงพยาบาลสัตว์ ให้กับทุกท่านที่สนใจอยากทำกิจการเกี่ยวกับสัตว์ ได้มีการวางแผนทำบัญชีอย่างถูกต้อง

อยากรู้รายละเอียดการ ทำบัญชีโรงพยาบาลสัตว์ เพิ่มเติม คลิกที่นี่เลย!


หลักของ ทำบัญชีโรงพยาบาลสัตว์


ก่อนที่จะเปิดบริษัทแนะนำว่า ควรทำการวางแผนทั้งในเรื่องของการ ทำบัญชีโรงพยาบาลสัตว์ และเรียนรู้เรื่องภาษีก่อน เพื่อเป็นตัวช่วยสร้างความมั่นคงให้กับธุรกิจของคุณ โดยหลักทางบัญชีโรงพยาบาลสัตว์ สิ่งที่จะต้องรู้มีดังนี้

บัญชีต้นทุนของโรงพยาบาลรักษาสัตว์


  • ต้นทุนค่าแรง - คือรายจ่ายของคลินิกที่จ่ายให้กับเจ้าหน้าที่ เป็นค่าตอบแทนในการปฏิบัติงาน รวมถึงค่าสวัสดิการต่างๆ ที่ต้องจ่ายให้ในรูปของตัวเงิน
  • ต้นทุนค่าวัสดุ - คือค่าใช้จ่ายวัสดุสิ้นเปลืองทุกประเภทที่ใช้ในการดำเนินงาน ได้แก่ ค่ายา, ค่าเวชภัณฑ์, เครื่องมือแพทย์, เครื่องมือวัดชีพจร ฯลฯ รวมถึงค่าบำรุงรักษาเครื่องมือแพทย์
  • ต้นทุนการลงทุน - เป็นต้นทุนที่เกิดจากการก่อสร้างอาคาร และการตกแต่งภายใน โดยบันทึกบัญชีเป็นสินทรัพย์ (Asset) คิดค่าเสื่อมราคาแบบเส้นตรง

การบันทึกข้อมูลรายรับ - รายจ่ายบัญชี ของโรงพยาบาลสัตว์


สามารถแบ่งได้เป็น 2 กรณีคือ กรณีรายรับที่เกิดจากการให้บริการรักษาสัตว์เลี้ยง และอีกกรณีเป็นรายรับจากการขายอาหารสัตว์ และขายสินค้าให้กับสัตว์เลี้ยง นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ผู้ประกอบการจะต้องนำมาบันทึก เพื่อเป็นรายรับและรายจ่ายในการทำบัญชี
 
หากคลินิกหรือโรงพยาบาลรักษาสัตว์ ที่เสียภาษีเงินได้แบบบุคคลธรรมดา จะสามารถหักค่าใช้จ่ายได้ตามจริงเท่านั้น จึงต้องเก็บเอกสาร ใบเสร็จต่างๆ ไว้ให้ครบถ้วน และควรลงบันทึกรายรับ-รายจ่ายทุกครั้ง เพื่อให้เป็นหลักฐานตอนยื่นภาษี

ทรัพย์สินโรงพยาบาลสัตว์

โดยส่วนมากจะเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ต่างๆ ได้แก่ เครื่องเอกซเรย์, เครื่องผ่าตัด, เครื่องอัลตราซาวนด์, เครื่องมือวัดชีพจร เครื่องชั่งน้ำหนัก รวมถึงเฟอร์นิเจอร์ เช่น เครื่องใช้สำนักงานต่างๆ

โครงสร้างรายได้ของโรงพยาบาลสัตว์

โครงสร้างรายได้ของโรงพยาบาลสัตว์ จึงสามารถแบ่งได้เป็น 2 ส่วน ได้แก่

  • รายได้หลัก - มาจากการให้บริการรักษาสัตว์เลี้ยงภายในโรงพยาบาล
  • รายรับเสริม - มาจากการจำหน่ายสินค้าเกี่ยวกับสัตว์ และการให้บริการต่างๆ เช่น การขายอาหารสัตว์ การขายอุปกรณ์ดูแลรักษาสัตว์เลี้ยง หรือการให้บริการอาบน้ำและตัดขนสัตว์ เป็นต้น

โครงสร้างค่าใช้จ่ายโรงพยาบาลสัตว์

1. รค่าใช้จ่ายในการตกแต่งอาคาร  - การตกแต่งหรือซ่อมแซมต่างๆ ภายในอาคาร โดยรายจ่ายเหล่านี้จะต้องนำมาบันทึกค่าใช้จ่าย ฝั่งของบริษัทและต้องคิดค่าเสื่อมราคา
2.  ค่าใช้จ่ายค่าเสื่อมราคาในการดำเนินธุรกิจ  - ของทั้งทางคุณหมอ Full Time / คุณหมอ Outsource / คุณหมอ Part – time / ผู้ช่วยพยาบาล / แอดมิน / แม่บ้าน /พนักงานอาบน้ำ-ตัดขน เป็นต้น ซึ่งค่าใช้จ่ายทั้งหมดนี้ จะต้องจัดระบบให้เรียบร้อย
3.  ค่าใช้จ่ายส่วนอื่นๆ  - เช่น ค่าน้ำ, ค่าไฟ, ค่าเช่า, ค่าซ่อมแซมบำรุงรักษา, ค่าที่ปรึกษา, ค่าใช้จ่ายทางด้านการตลาด, รวมถึงค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่างๆ

อ่านรายละเอียด โครงสร้างค่าใช้จ่ายโรงพยาบาลสัตว์ เพิ่มเติม

การจดเข้าภาษีมูลค่าเพิ่ม สำหรับสินค้าที่มี Vat และ Non Vat



รายการค่าใช้จ่ายในธุรกิจโรงพยาบาลสัตว์ที่มี Vat

  • ค่าบริการทางการแพทย์
  • ค่าอุปกรณ์ทางการแพทย์
  • สินค้าต่างๆ ของสัตว์เลี้ยง เช่น ทรายแมว, กระบะทรายแมว, เสื้อผ้าน้องหมาและน้องแมว รวมถึงของใช้ต่างๆ เป็นต้น

รายการค่าใช้จ่ายในธุรกิจโรงพยาบาลสัตว์ที่ Non Vat

  • ค่ายารักษาสัตว์
  • อาหารสัตว์

สิ่งสำคัญคือทุกครั้งที่มีการออกใบเสร็จรับเงิน หรือออกใบกำกับภาษีให้ลูกค้า จะต้องมีการบันทึกข้อมูลอย่างละเอียด เพราะข้อมูลทุกอย่างจะต้องนำรายงานส่งภาษีมูลค่าเพิ่ม และแบบภาษี ภพ.30 ทุกเดือน

ทำความเข้าใจ โครงสร้างค่าใช้จ่ายโรงพยาบาลสัตว์ เพิ่มเติม

หาที่ปรึกษาด้านการ ทำบัญชีโรงพยาบาลสัตว์ แนะนำที่ นรินทร์ทอง

โดยสรุปแล้วจะเห็นว่า การเปิดโรงพยาบาลสัตว์หรือคลินิกรักษาสัตว์ขึ้นมาสักแห่งหนึ่ง เจ้าของธุรกิจจะต้องใส่ใจรายละเอียดในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะการ ทำบัญชีโรงพยาบาลสัตว์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเป็นข้อมูลทางด้านธุรกรรมที่มีหลายขั้นตอน และมีความละเอียดอ่อน หากเกิดข้อผิดพลาดขึ้นมาอาจส่งผลเสียต่อตัวธุรกิจได้โดยตรง ดังนั้นถ้าคุณอยากได้ที่ปรึกษาด้าน การทำบัญชี ส่วนตัว ขอแนะนำ บริษัท นรินทร์ทอง จำกัด สำนักงาน รับทำบัญชี และจัดทำงบการเงิน โดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านบัญชีและภาษี ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโตและมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น

  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ

สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่...
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339


#12



การจะเปิดโรงพยาบาลสัตว์ขึ้นมาสักแห่ง เจ้าของกิจการจำเป็นต้องพิจารณาถึงปัจจัยต่างๆ ที่มีผลต่อโรงพยาบาลสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของต้นทุน รายได้ รวมถึงค่าใช้จ่ายส่วนอื่นๆ สิ่งเหล่านี้ล้วนต้องมีการวางแผนจัด ทำบัญชีโรงพยาบาลสัตว์ ขึ้นมา วันนี้ทางเรา นรินทร์ทอง บริษัท รับทำบัญชี จึงไม่พลาดที่จะนำเสนอเรื่องที่ต้องรู้เกี่ยวกับ หลักการทำบัญชีของโรงพยาบาลสัตว์ ให้กับทุกท่านที่สนใจอยากทำกิจการเกี่ยวกับสัตว์ ได้มีการวางแผนทำบัญชีอย่างถูกต้อง

อยากรู้รายละเอียดการ ทำบัญชีโรงพยาบาลสัตว์ เพิ่มเติม คลิกที่นี่เลย!


หลักของ ทำบัญชีโรงพยาบาลสัตว์


ก่อนที่จะเปิดบริษัทแนะนำว่า ควรทำการวางแผนทั้งในเรื่องของการ ทำบัญชีโรงพยาบาลสัตว์ และเรียนรู้เรื่องภาษีก่อน เพื่อเป็นตัวช่วยสร้างความมั่นคงให้กับธุรกิจของคุณ โดยหลักทางบัญชีโรงพยาบาลสัตว์ สิ่งที่จะต้องรู้มีดังนี้

บัญชีต้นทุนของโรงพยาบาลรักษาสัตว์


  • ต้นทุนค่าแรง - คือรายจ่ายของคลินิกที่จ่ายให้กับเจ้าหน้าที่ เป็นค่าตอบแทนในการปฏิบัติงาน รวมถึงค่าสวัสดิการต่างๆ ที่ต้องจ่ายให้ในรูปของตัวเงิน
  • ต้นทุนค่าวัสดุ - คือค่าใช้จ่ายวัสดุสิ้นเปลืองทุกประเภทที่ใช้ในการดำเนินงาน ได้แก่ ค่ายา, ค่าเวชภัณฑ์, เครื่องมือแพทย์, เครื่องมือวัดชีพจร ฯลฯ รวมถึงค่าบำรุงรักษาเครื่องมือแพทย์
  • ต้นทุนการลงทุน - เป็นต้นทุนที่เกิดจากการก่อสร้างอาคาร และการตกแต่งภายใน โดยบันทึกบัญชีเป็นสินทรัพย์ (Asset) คิดค่าเสื่อมราคาแบบเส้นตรง

การบันทึกข้อมูลรายรับ - รายจ่ายบัญชี ของโรงพยาบาลสัตว์


สามารถแบ่งได้เป็น 2 กรณีคือ กรณีรายรับที่เกิดจากการให้บริการรักษาสัตว์เลี้ยง และอีกกรณีเป็นรายรับจากการขายอาหารสัตว์ และขายสินค้าให้กับสัตว์เลี้ยง นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ผู้ประกอบการจะต้องนำมาบันทึก เพื่อเป็นรายรับและรายจ่ายในการทำบัญชี
 
หากคลินิกหรือโรงพยาบาลรักษาสัตว์ ที่เสียภาษีเงินได้แบบบุคคลธรรมดา จะสามารถหักค่าใช้จ่ายได้ตามจริงเท่านั้น จึงต้องเก็บเอกสาร ใบเสร็จต่างๆ ไว้ให้ครบถ้วน และควรลงบันทึกรายรับ-รายจ่ายทุกครั้ง เพื่อให้เป็นหลักฐานตอนยื่นภาษี

ทรัพย์สินโรงพยาบาลสัตว์

โดยส่วนมากจะเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ต่างๆ ได้แก่ เครื่องเอกซเรย์, เครื่องผ่าตัด, เครื่องอัลตราซาวนด์, เครื่องมือวัดชีพจร เครื่องชั่งน้ำหนัก รวมถึงเฟอร์นิเจอร์ เช่น เครื่องใช้สำนักงานต่างๆ

โครงสร้างรายได้ของโรงพยาบาลสัตว์

โครงสร้างรายได้ของโรงพยาบาลสัตว์ จึงสามารถแบ่งได้เป็น 2 ส่วน ได้แก่

  • รายได้หลัก - มาจากการให้บริการรักษาสัตว์เลี้ยงภายในโรงพยาบาล
  • รายรับเสริม - มาจากการจำหน่ายสินค้าเกี่ยวกับสัตว์ และการให้บริการต่างๆ เช่น การขายอาหารสัตว์ การขายอุปกรณ์ดูแลรักษาสัตว์เลี้ยง หรือการให้บริการอาบน้ำและตัดขนสัตว์ เป็นต้น

โครงสร้างค่าใช้จ่ายโรงพยาบาลสัตว์

1. รค่าใช้จ่ายในการตกแต่งอาคาร  - การตกแต่งหรือซ่อมแซมต่างๆ ภายในอาคาร โดยรายจ่ายเหล่านี้จะต้องนำมาบันทึกค่าใช้จ่าย ฝั่งของบริษัทและต้องคิดค่าเสื่อมราคา
2.  ค่าใช้จ่ายค่าเสื่อมราคาในการดำเนินธุรกิจ  - ของทั้งทางคุณหมอ Full Time / คุณหมอ Outsource / คุณหมอ Part – time / ผู้ช่วยพยาบาล / แอดมิน / แม่บ้าน /พนักงานอาบน้ำ-ตัดขน เป็นต้น ซึ่งค่าใช้จ่ายทั้งหมดนี้ จะต้องจัดระบบให้เรียบร้อย
3.  ค่าใช้จ่ายส่วนอื่นๆ  - เช่น ค่าน้ำ, ค่าไฟ, ค่าเช่า, ค่าซ่อมแซมบำรุงรักษา, ค่าที่ปรึกษา, ค่าใช้จ่ายทางด้านการตลาด, รวมถึงค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่างๆ

อ่านรายละเอียด โครงสร้างค่าใช้จ่ายโรงพยาบาลสัตว์ เพิ่มเติม

การจดเข้าภาษีมูลค่าเพิ่ม สำหรับสินค้าที่มี Vat และ Non Vat



รายการค่าใช้จ่ายในธุรกิจโรงพยาบาลสัตว์ที่มี Vat

  • ค่าบริการทางการแพทย์
  • ค่าอุปกรณ์ทางการแพทย์
  • สินค้าต่างๆ ของสัตว์เลี้ยง เช่น ทรายแมว, กระบะทรายแมว, เสื้อผ้าน้องหมาและน้องแมว รวมถึงของใช้ต่างๆ เป็นต้น

รายการค่าใช้จ่ายในธุรกิจโรงพยาบาลสัตว์ที่ Non Vat

  • ค่ายารักษาสัตว์
  • อาหารสัตว์

สิ่งสำคัญคือทุกครั้งที่มีการออกใบเสร็จรับเงิน หรือออกใบกำกับภาษีให้ลูกค้า จะต้องมีการบันทึกข้อมูลอย่างละเอียด เพราะข้อมูลทุกอย่างจะต้องนำรายงานส่งภาษีมูลค่าเพิ่ม และแบบภาษี ภพ.30 ทุกเดือน

ทำความเข้าใจ โครงสร้างค่าใช้จ่ายโรงพยาบาลสัตว์ เพิ่มเติม

หาที่ปรึกษาด้านการ ทำบัญชีโรงพยาบาลสัตว์ แนะนำที่ นรินทร์ทอง

โดยสรุปแล้วจะเห็นว่า การเปิดโรงพยาบาลสัตว์หรือคลินิกรักษาสัตว์ขึ้นมาสักแห่งหนึ่ง เจ้าของธุรกิจจะต้องใส่ใจรายละเอียดในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะการ ทำบัญชีโรงพยาบาลสัตว์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเป็นข้อมูลทางด้านธุรกรรมที่มีหลายขั้นตอน และมีความละเอียดอ่อน หากเกิดข้อผิดพลาดขึ้นมาอาจส่งผลเสียต่อตัวธุรกิจได้โดยตรง ดังนั้นถ้าคุณอยากได้ที่ปรึกษาด้าน การทำบัญชี ส่วนตัว ขอแนะนำ บริษัท นรินทร์ทอง จำกัด สำนักงาน รับทำบัญชี และจัดทำงบการเงิน โดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านบัญชีและภาษี ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโตและมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น

  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ

สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่...
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339


#13

การทำบัญชีไม่ใช่แค่การทำเอกสารส่งสรรพากรเท่านั้น เพราะจริงๆ แล้วก็การทำบัญชี เป็นตัวช่วยในการบริหารงานที่สำคัญไม่แพ้กับ การพัฒนาสินค้าบริการ และการทำการตลาด ดังนั้นสำหรับเจ้าของธุรกิจที่ยังไม่เริ่มทำบัญชี ห้ามพลาดกับ ประโยชน์ของการทำบัญชี กับเรานรินทร์ทอง

เรียนรู้ประโยชน์ของการทำบัญชี กับเราเพิ่มเติมได้ที่นี่


ประโยชน์ของการทำบัญชี


ช่วยให้เห็นภาพผลการดำเนินการของกิจการ
กิจการของเรามีรายรับ รายจ่าย ได้กำไร หรือ ขาดทุน มีรายได้จากสินค้าและบริการอะไรเป็นหลัก


เป็นเครื่องมือที่สามารถนำมาใช้และตัดสินใจในธุรกิจ
  • ช่วยให้คุณสามารถติดตาม และจัดการกระแสเงินสดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ทำให้เราเห็นต้นทุนของสินค้าและบริการนั้นๆ ได้ชัดเจน
  • ช่วยให้คุณสามารถวางแผนทางการเงินได้อย่างแม่นยำ

ทำความเข้าใจการทำบัญชี ประโยชน์ที่ช่วยต่อยอดธุรกิจ เพิ่มเติมคลิกที่นี่



การทำบัญชีเป็นเครื่องมือในการตรวจสอบกิจการ
เนื่องจากการทำบัญชี หรือ การบันทึกบัญชี จะทำให้เราสามารถตรวจสอบข้อผิดพลาดต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้


การหาแหล่งเงินทุน
สามารถนำรายงานบัญชีไปเป็นข้อมูลสำหรับการขอสินเชื่อ ธนาคาร สถาบัญทางการเงินต่างๆ เพื่อพิจารณาการให้สินเชื่อ

อยากสร้างธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคง เรียนรู้การจ้างสำนักงานบัญชีคลิกที่นี่


สรุป ประโยชน์ของการทำบัญชี ที่มีดีมากกว่าที่คุณคิด

การทำบัญชีไม่ใช่แค่การเก็บข้อมูลทางการเงินเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการบริหารจัดการธุรกิจให้มีประสิทธิภาพ บริษัท นรินทร์ทอง จำกัด สำนักงานรับทำบัญชี และจัดทำงบการเงิน โดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านบัญชีและภาษี ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโตและมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น

  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ
 

สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่...
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339
#14

การทำบัญชีเป็นส่วนสำคัญของการดำเนินธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ ถ้าหากใครที่ทำบัญชีด้วยตัวเอง แล้วเริ่มซับซ้อนไม่ตอบโจทย์ ไม่รู้ว่าจะเริ่ม จ้างทำบัญชี ตอนไหน แล้วจะจ้างเป็นพนักงาน หรือจ้างสำนักงานบัญชี ไปเลย บทความนี้จะช่วยคุณตัดสินใจ กับเรานรินทร์ทอง

อ่านรายละเอียดการจ้างทำบัญชีเพิ่มเติม อ่านบทความเต็มๆ ที่นี่

เมื่อไรควร จ้างทำบัญชี?


  • ธุรกิจเติบโตอย่างรวดเร็ว: การจ้างทำบัญชีจะช่วยให้คุณมีเวลามากขึ้น ในการเน้นไปที่การขยายธุรกิจ และการพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการ
  • ความซับซ้อนของการทำบัญชีเพิ่มขึ้น: เมื่อธุรกิจขยายและมีการทำธุรกรรมทางการเงินที่ซับซ้อน เช่น การจัดการภาษี การจ่ายเงินเดือน และการจัดทำรายงานทางการเงิน รวมถึงธุรกิจบางประเภทที่ต้องรู้เรื่องภาษีเฉพาะทาง
  • ขาดความรู้และทักษะทางบัญชี: การจ้างมืออาชีพมาช่วยดูแลการเงิน จะช่วยให้คุณมั่นใจในความถูกต้อง และช่วยคุณประหยัดเวลา

ปัจจัยในด้านขนาดธุรกิจแบบไหนควร จ้างทำบัญชี

สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก
รายได้ยังไม่เกิน 1.8 ล้านต่อปี ธุรกิจมีรูปแบบที่ไม่ซับซ้อน มีจำนวนบิลไม่มากเนื่องจากธุรกิจพึ่งมีการดำเนินการ อยู่ในรูปแบบบุคคลธรรมดา แบบนี้แอดมินแนะนำให้ ศึกษาการทำบัญชี และ ยื่นภาษีได้เอง ยังไม่ได้มีความจำเป็นที่จะต้องจ้างสำนักงานบัญชี

สำหรับธุรกิจขนาดกลาง
มีการจดทะเบียนนิติบุคคล หจก หรือ บจก และมีรายได้มากกว่า 1.8 ล้าน/ต่อปี ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม เริ่มมีรายได้สูง และ เริ่มมีพนักงานหลายคน มีจำบิลซื้อ และ ขายเป็นจำนวนมาก

เรียนรู้ปัจจัยการจ้างทำบัญชี สำหรับธุรกิจแต่ละขนาด เพิ่มเติมคลิกที่นี่


เลือกทำบัญชีเอง จ้างพนักงาน หรือ จ้างสำนักงานบัญชี แบบไหนดีกว่ากัน

ทำบัญชีเอง:

ข้อดี
  • ประหยัดค่าใช้จ่าย
  • สามารถควบคุณได้ง่าย
  • ได้ความรู้
ข้อเสีย
  • มีโอกาสเกิดข้อผิดพลาดสูง

*ซึ่งเจ้าของธุรกิจจำเป็นจะต้องจ้างผู้ทำบัญชี  และ ผู้สอบบัญชี ไม่สามารถปิดงบการเงินได้ด้วยตัวเองจำเป็นจะต้องจ้างซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ *

จ้างพนักงานทำบัญชี:

ข้อดี
  • ความต่อเนื่องและความเชื่อถือ
  • การให้คำปรึกษาทางการเงิน
ข้อเสีย
  • มีค่าใช้จ่าย

จ้างสำนักงานบัญชี:

ข้อดี
  • มืออาชีพและความเชี่ยวชาญ
  • ช่วยประหยัดเวลา
  • ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างถูกต้อง
ข้อเสีย
  • ความยืดหยุ่นจะน้อยกว่าแบบอื่นๆ


เลือกแนวทางการทำบัญชีที่เหมาะกับธุรกิจของคุณ อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่!


สรุป
การจ้างทำบัญชีเราจะจ้างได้ เมื่อกิจการมีความพร้อม พร้อมทั้งในส่วนของรายได้ และ เหมาะกับสถานการณ์ในช่วงนั้นๆ บริษัท นรินทร์ทอง จำกัด สำนักงาน รับทำบัญชี ทำบัญชี และจัดทำงบการเงิน โดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านบัญชีและภาษี ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโตและมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น

  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ
 

สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่...
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339
#15




หลังเปิดบริษัทแล้วต้องทําอะไรบ้าง ? ซึ่งทาง นรินทร์ทอง ในฐานะที่เราเป็นผู้ให้คำปรึกษาด้านการจัดทำบัญชี และจดทะเบียนบริษัท จึงอยากมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับ สิ่งที่ต้องทำหลังการจดทะเบียนบริษัท เพื่อให้เจ้าของธุรกิจได้ทราบถึงขั้นตอนต่างๆ ที่ต้องทำหลังจากนั้น

ข้อควรรู้ หลังเปิดบริษัทแล้วต้องทําอะไรบ้าง อ่านบทความเต็มๆ ได้ที่นี่


หลัง เปิดบริษัทแล้วต้องทําอะไรบ้าง ?



1. จัดประชุมผู้ถือหุ้น
สำหรับบริษัทจำกัด นับจากวันที่ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล จะต้องมีการประชุมสามัญครั้งแรก ภายใน 6 เดือนนับจากวันที่จดทะเบียนบริษัท ส่วนการจัดประชุมในครั้งต่อๆ ไป จะต้องจัดประชุมอย่างน้อยหนึ่งครั้งทุกๆ 12 เดือน

2. จัดทำใบหุ้นและสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น
  • ใบหุ้น คือ เอกสารที่ต้องระบุข้อมูลต่างๆ ของการเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัท
  • สมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น คือ สมุดแสดงรายการข้อมูลหุ้นตั้งแต่จดทะเบียนจัดตั้งบริษัท ที่มีข้อมูลตั้งแต่ขั้นตอนการจัดตั้ง, มีรายการเพิ่มทุน-ลดทุน, การโอนหุ้น รวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้น

3. จัดทำบัญชีตามที่กฏหมายกำหนด
  • บัญชีรายวัน ได้แก่ บัญชีเงินสด, บัญชีธนาคาร, บัญชีรายวันซื้อ, บัญชีรายวันขาย และบัญชีรายวันทั่วไป
  • บัญชีแยกประเภท ได้แก่ หนี้สิน, ทุน, รายได้ และค่าใช้จ่ายลูกหนี้ เจ้าหนี้
  • บัญชีสินค้า และ สต็อกสินค้า
  • บัญชีอื่นๆ ตามรูปแบบของบริษัท

4. จัดหาผู้ทำบัญชีของบริษัท
ทางบริษัทจะต้องมีการจัดทำบัญชี ที่แสดงข้อมูลผลประกอบการที่เกิดขึ้นตามความเป็นจริง และตรงตามมาตรฐานการรายงานทางการเงิน

5. จัดส่งเอกสารให้ผู้ทำบัญชีเพื่อปิดบัญชี
ในส่วนนี้เป็นหน้าที่ของผู้ประกอบการ ที่จะต้องมอบเอกสารทั้งหมดให้ผู้ทำบัญชี เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการลงบัญชีในทุกๆ เดือน

6. จัดทำงบการเงิน
บริษัทจะต้องปิดงบการเงินในทุกๆ รอบ 12 เดือน หรือ 1 ปี เพื่อให้ผู้สอบบัญชีตรวจสอบและลงลายมือชื่อ จากนั้นนำเสนอในที่ประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้น เพื่อให้ผู้ถือหุ้นอนุมัติงบการเงินภายใน 4 เดือน หลังสิ้นรอบระยะเวลาบัญชี

7. จัดเก็บเอกสารบัญชีและภาษี
ทางบริษัทจำเป็นต้องเก็บเอกสารที่ใช้ ประกอบการลงบัญชีทั้งหมดไว้ที่บริษัทไม่น้อยกว่า 5 ปี ส่วนการเก็บรักษาเอกสารภาษี ตามประมวลรัษฎากร กำหนดให้ผู้ประกอบการเก็บรักษาไว้เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปี แต่ไม่เกิน 7 ปี

อ่านรายละเอียดสิ่งที่ต้องทำหลังเปิดบริษัท เพิ่มเติมคลิก


หากไม่ทำเกิดอะไรขึ้น


  • มาตรา 8 บริษัทจำกัดไม่ทำใบหุ้น หรือเรียกค่าธรรมเนียมเกิน
    มีค่าปรับ 10,000 บาท
  • มาตรา 10 บริษัทจำกัดไม่มีสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น
    มีค่าปรับ 20,000 บาท
  • มาตรา 11 บริษัทจำกัดไม่รักษาสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น หรือไม่เปิดสมุดทะเบียนเมื่อผู้ถือหุ้นร้องขอ
    มีค่าปรับ 20,000 บาท
  • มาตรา 25 บริษัทจำกัดใดกระทำความผิดตามมาตรา 7-24
    มีค่าปรับ 50,000 บาท

ทำความเข้าใจที่มาของค่าปรับต่างๆ เพิ่มเติม คลิกอ่านบทความที่นี่


สรุป หลังการเปิดบริษัทต้องทำอย่างไรบ้าง กับ นรินทร์ทอง


เมื่อรู้อย่างนี้แล้วก็อย่าละเลยที่จะจัดเตรียมเอกสาร และงานบัญชีที่ต้องทำให้เรียบร้อยตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อที่บริษัทจะได้มีงบการเงินที่มีคุณภาพ ไม่ต้องโดนค่าปรับ และสำหรับผู้ประกอบการท่านใด ที่ไม่มีความรู้เรื่องการจัดทำบัญชี หรือไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มจากตรงไหนก่อน แนะนำว่าให้ปรึกษากับสำนักงานบัญชีที่มีความเชี่ยวชาญโดยตรง อย่าง บริษัท นรินทร์ทอง จำกัด สำนักงานรับทำบัญชี และจัดทำงบการเงิน โดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านบัญชีและภาษี ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโตและมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น
  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ
 

สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่...
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : ]narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339