ลงประกาศฟรี โพสต์ฟรี โปรโมทเว็บไซต์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN

ต้นคริสต์มาส หรือ Christmas tree ในภาษาอังกฤษ เป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดอย่างหนึ่งของเทศกาลคริสต์มาส  ที่ส่องประกายระยิบระยับในบ้านเรือนทั่วโลก แต่เคยสงสัยไหมว่า ประเพณีการตกแต่งต้นไม้ที่เขียวชอุ่มด้วยของประดับวิบวับนี้มีมาตั้งแต่เมื่อไหร่?

คำว่า "ต้นคริสต์มาส"  ปรากฏขึ้นครั้งแรกในช่วงศตวรรษที่ 16  ในประเทศเยอรมนี  ซึ่งเป็นยุคที่ประเพณีการนำต้นคริสต์มาสเข้ามาตกแต่งในบ้านช่วงเทศกาลคริสต์มาสเริ่มแพร่หลาย 

ต้นกำเนิดของต้นคริสต์มาสสามารถสืบย้อนกลับไปได้หลายศตวรรษ ตั้งแต่ยุคก่อนคริสต์ศักราช ในวัฒนธรรมของชนเผ่าเยอรมันโบราณ ผู้ซึ่งบูชาต้นไม้ในฐานะสัญลักษณ์แห่งชีวิตและความอุดมสมบูรณ์ พวกเขาเฉลิมฉลองเทศกาลฤดูหนาวโดยการนำต้นไม้เข้ามาในบ้าน และประดับประดาด้วยเทียนและสิ่งของต่างๆ ซึ่งอาจถือได้ว่าเป็นต้นแบบของต้นคริสต์มาสในปัจจุบัน

ต่อมา ชาวคริสต์ในเยอรมนี เริ่มนำต้นไม้เข้ามาตกแต่งในบ้านในช่วงเทศกาลคริสต์มาส โดยเชื่อมโยงกับเรื่องราวในพระคัมภีร์ไบเบิล เกี่ยวกับต้นไม้แห่งชีวิตในสวนเอเดน และการประสูติของพระเยซูคริสต์  ทำให้ต้นไม้ชนิดนี้ ถูกเรียกขนานนามว่า "ต้นคริสต์มาส"  และกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความหวัง และการเริ่มต้นใหม่

การตกแต่งต้นคริสต์มาส: สร้างสรรค์จินตนาการแห่งความสุข

ปัจจุบัน ต้นคริสต์มาสได้กลายเป็นประเพณีที่แพร่หลายไปทั่วโลก โดยมีการประดับประดาต้นคริสต์มาสด้วยแสงไฟระยิบระยับ ลูกบอลหลากสีสัน ดาว  ริบบิ้น  และของประดับตกแต่งอื่นๆ อีกมากมาย  การตกแต่งต้นคริสต์มาสเป็นกิจกรรมที่สนุกสนานสำหรับครอบครัวและเพื่อนฝูง  และเป็นสัญลักษณ์แห่งความสุข ความหวัง และช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองในเทศกาลคริสต์มาส

แสงไฟ
แสงไฟหลากสีสันที่ส่องประกายระยิบระยับบนต้นคริสต์มาส เปรียบเสมือนแสงแห่งความหวังและความสุขที่ส่องสว่างในยามค่ำคืน

ลูกบอล
ลูกบอลหลากสีสันที่ประดับประดาบนต้นคริสต์มาส  เปรียบเสมือนผลแห่งความสุขและความสมบูรณ์

ดาว
ดาวที่อยู่บนยอดต้นคริสต์มาส  เป็นสัญลักษณ์ของดาวแห่งเบธเลเฮม ที่นำทางนักปราชญ์ไปยังสถานที่ประสูติของพระเยซู


ริบบิ้น
ริบบิ้นที่พันรอบต้นคริสต์มาส  เปรียบเสมือนสายใยแห่งความรักและความผูกพันของครอบครัวและเพื่อนฝูง

 นอกจากนี้  ยังมีการประดับตกแต่งต้นคริสต์มาสด้วยของตกแต่งอื่นๆ อีกมากมาย  เช่น  ตุ๊กตา  รูปปั้น  และของที่ระลึกต่างๆ  ตามแต่จินตนาการและความชอบของแต่ละคน 
เลือกซื้อได้ที่ https://shop.villamarket.com/catalog/Pre%20Order/Christmas/All

ใครว่าทำ Pasta ให้อร่อย ต้องเป็นเชฟมืออาชีพเท่านั้น? บทความนี้เรามี  10  สูตร Pasta  ทำง่าย  อร่อยระดับภัตตาคาร มาฝากทุกคน รับรองว่าแม้แต่มือใหม่หัดเข้าครัวก็ทำตามได้สบายๆ ไปดูกันเลย!

1. Pasta ไข่ต้มกับเคเปอร์ (Pasta with Egg and Caper)

เมนูคลาสสิคที่อร่อยแบบเรียบง่าย เริ่มจากต้มเส้น Pasta จนได้ที่ ขูดไข่ต้มเตรียมไว้ จากนั้นผัดกระเทียม เคเปอร์ และแอนโชวีในกระทะ ใส่น้ำมันมะกอกเล็กน้อย เสร็จแล้วใส่เส้น Pasta ลงไปคลุกให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยพาร์เมซานชีส และน้ำเลมอน โรยหน้าด้วยไข่ต้มขูดและพาร์สลีย์ บอกเลยว่าอร่อยลงตัว!

เคล็ดลับความอร่อย
 เลือกใช้เส้น Pasta แบบ Spaghetti หรือ Linguine จะเข้ากันได้ดีที่สุด
ต้มเส้น Pasta ให้ Al Dente คือมีความแข็งเล็กน้อยตรงกลางเส้น จะทำให้ Pasta ไม่เละเวลาคลุกกับซอส
บีบน้ำเลมอนเล็กน้อยตอนคลุก Pasta จะช่วยเพิ่มรสชาติให้สดขึ้น

2. Pasta ครีมเห็ด เสิร์ฟคู่กับไก่อบ

เมนูนี้เหมาะสำหรับมื้อพิเศษ เริ่มจากหมักอกไก่ด้วยเกลือ พริกไทย นำไปอบจนสุกหอม จากนั้นนำเนยไปผัดกับกระเทียม มะเขือเทศตากแห้ง และเห็ด ใส่แป้งสาลีเล็กน้อย ตามด้วยน้ำซุปและวิปปิงครีม เคี่ยวจนเป็นซอสข้นหนืด ใส่เส้น Pasta ลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน โรยหน้าด้วยพาร์เมซานชีส เสิร์ฟพร้อมอกไก่อบร้อนๆ อร่อยฟินสุดๆ

เคล็ดลับความอร่อย
เลือกใช้เห็ดหลากหลายชนิด เช่น เห็ดแชมปิญอง เห็ดชิตาเกะ เห็ดออรินจิ เพื่อเพิ่มรสสัมผัสและความหอม
ใช้ไวน์ขาวแทนน้ำซุปส่วนหนึ่ง จะช่วยเพิ่มรสชาติให้ซอสเข้มข้นยิ่งขึ้น
 นำ Pasta ที่ต้มสุกแล้วไปคลุกกับซอสในกระทะอีกครั้ง จะช่วยให้ซอสซึมเข้าเส้นมากขึ้น

3. Pasta ทูน่าอบ ซอสครีม
เมนูสุดครีเอทที่ทำง่ายแต่อร่อยล้ำ เริ่มจากต้มเส้น Pasta เตรียมไว้ จากนั้นนำเนยไปผัดกับหอมหัวใหญ่ กระเทียม และเห็ด ใส่แป้งสาลีเล็กน้อย ตามด้วยวิปปิงครีม คนจนข้น ใส่ทูน่า น้ำซุป ถั่วลันเตา แครอต ดอกกะหล่ำ และชีสมอซซาเรลลา ผัดให้เข้ากัน ปรุงรสตามชอบ นำไปอบจนชีสละลาย เป็นอันเสร็จ

เคล็ดลับความอร่อย
ใช้ทูน่าในน้ำมันรำข้าวหรือน้ำเกลือ จะช่วยให้ Pasta ไม่เลี่ยนจนเกินไป
ใส่ผักหลากสีสัน เช่น แครอท บร็อคโคลี่ ข้าวโพด จะช่วยเพิ่มคุณค่าทางอาหารและความน่ารับประทาน
โรยหน้าด้วยชีสพาร์เมซานขูดและพาสลีย์สับก่อนเสิร์ฟ เพิ่มความหอมและรสชาติ

4. Pasta ครีมซอสเห็ด โดยเชฟบัว Master Chef Thailand Season 1

สูตรลับความอร่อยจากเชฟบัว การันตีความอร่อย! เริ่มจากต้มเส้น Pasta เตรียมไว้ จากนั้นนำเห็ดไปผัดกับน้ำมันมะกอกจนหอม ใส่หอมแดง กระเทียม และวิปปิงครีม เคี่ยวจนเป็นซอสข้น ใส่เส้น Pasta ลงไปคลุกเคล้า ปรุงรสตามชอบ โรยหน้าด้วยพาร์เมซานชีส พาร์สลีย์ เห็ดสด และน้ำมันทรัฟเฟิล เท่านี้ก็อร่อยเลิศ

เคล็ดลับความอร่อย
ใช้เห็ดทรัฟเฟิล น้ำมันทรัฟเฟิล หรือซอสทรัฟเฟิล เพิ่มความหอมหรูหรา
ใช้น้ำสต๊อกผักแทนน้ำเปล่า จะช่วยเพิ่มรสชาติให้ซอสกลมกล่อมยิ่งขึ้น
ตกแต่งจานด้วยใบร็อคเก็ต หรือผักชีฝรั่ง เพิ่มความสดชื่น

5. Pasta เนื้อกระเทียมครีมซอส ฉบับเชฟบอล Garlic House

สูตรเด็ดจากเชฟบอล ที่สายกระเทียมต้องไม่พลาด! เริ่มจากเจียวมันเนื้อจนหอม ตามด้วยเจียวกระเทียมจนเหลืองกรอบ ทำ Garlic Cream โดยผัดครีมกับกระเทียมสไลซ์ด้วยไฟอ่อนๆ จนหอม นำเนื้อไปจี่ในกระทะจนสุก ใส่เห็ดและเส้น Pasta ลงไปผัด ตามด้วยครีม ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย โรยหน้าด้วยพาร์สลีย์สับและชีส อร่อยเข้มข้นถึงใจ

เคล็ดลับความอร่อย
ใช้เนื้อวัวส่วนสันใน สันนอก หรือริบอาย จะนุ่มอร่อย
ปรุงรสด้วยซอสปรุงรสฝาเขียวเล็กน้อย เพิ่มความกลมกล่อม
 โรยหน้าด้วยพริกไทยดำบดหยาบ เพิ่มความเผ็ดร้อน

6. Pasta อกไก่ครีมซอส

เมนูสุขภาพที่อร่อยครบรส เริ่มจากต้มเส้น Pasta เตรียมไว้ จากนั้นนำเบคอนไปทอดจนกรอบพักไว้ นำอกไก่ไปผัดจนสุก ใส่หอมหัวใหญ่ กระเทียม ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย และ Italian seasoning ใส่นมสด พาร์เมซานชีส เส้น Pasta มะเขือเทศ และ mini kale ผัดจนเข้ากัน โรยหน้าด้วยเบคอนทอดกรอบ อร่อยครบรส

เคล็ดลับความอร่อย
หมักอกไก่กับนมสดก่อนนำไปปรุง จะช่วยให้อกไก่นุ่มขึ้น
ใช้ผักหลากสีสัน เช่น พริกหวานสามสี มะเขือเทศราชินี เพิ่มความน่ารับประทาน
โรยหน้าด้วยอัลมอนด์สไลซ์อบกรอบ เพิ่มรสสัมผัส

7.สปาเกตตีชิลลีเพสโตกุ้ง สูตรลับความอร่อยจาก ร้าน &More เด๋อ

เมนูสุดแซ่บที่ใครๆ ก็ติดใจ เริ่มจากต้มเส้นสปาเกตตีจนได้ที่ จากนั้นนำกุ้งไปกริลล์จนสุก นำหัวกุ้งไปจี่ในกระทะให้หอม ใส่น้ำมันมะกอก มะกอกดำ พริกแห้ง เส้นสปาเกตตี ซอสชิลลีเพสโต ปรุงรสด้วยเกลือเล็กน้อย ผัดให้เข้ากัน ใส่กุ้ง มะเขือเทศเชอร์รี บีบมะนาวเล็กน้อย โรยหน้าด้วยพริกไทยดำ พาร์เมซานชีส อร่อยแซ่บถึงเครื่อง

เคล็ดลับความอร่อย
ใช้กุ้งสดขนาดใหญ่ จะทำให้เมนูดูน่ารับประทานยิ่งขึ้น
ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บเล็กน้อย เพิ่มรสชาติแบบไทยๆ
โรยหน้าด้วยใบโหระพาเด็ดเป็นใบๆ เพิ่มความหอม

8.Ocean Alla Vodka เมนูพิเศษจาก เชฟป้อ Goose Café BKK

เมนูสุดหรูหราที่ทำง่ายกว่าที่คิด เริ่มจากผัดเบคอนจนหอม ใส่พริกแห้ง ใบโหระพา หอมหัวใหญ่ กระเทียม เนย มะเขือเทศเข้มข้น น้ำเปล่า วอดก้า ครีม ชีสพาร์เมซาน ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย นำเส้นริกาโตนีที่ต้มแล้วใส่ลงไป ผัดให้เข้ากัน จัดเสิร์ฟสวยๆ อร่อยระดับภัตตาคาร

เคล็ดลับความอร่อย
 ใช้เส้น Pasta แบบ Rigatoni หรือ Penne จะช่วยให้ซอสเกาะเส้นได้ดี
 เผาเปลือกมะเขือเทศก่อนนำไปปั่น จะช่วยเพิ่มความหอม
 ตกแต่งจานด้วยไข่ปลาแซลมอน เพิ่มความหรูหรา

9. สปาเกตตีเบคอนผัดกระเทียมน้ำมันมะกอก
เมนูสุดคลาสสิคที่อร่อยไม่มีเบื่อ เริ่มจากผัดเบคอน กระเทียม พริกแห้ง เส้นสปาเกตตี ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย ใสไวน์ขาว ผัดจนสุก ใส่ใบโหระพา ผัดให้เข้ากัน โรยหน้าด้วยพาร์เมซานชีสขูด อร่อยแบบต้นตำรับ

เคล็ดลับความอร่อย
ใช้เบคอนรมควัน จะช่วยเพิ่มความหอม
 ใช้น้ำมันมะกอก Extra Virgin Olive Oil จะได้รสชาติที่ดีที่สุด
โรยหน้าด้วยพริกป่นเล็กน้อย เพิ่มความเผ็ดร้อน

10.สปาเกตตีผัดพริกสดปูนิ่มทอด
เมนูรสจัดจ้านที่ใครได้ลองก็ต้องติดใจ เริ่มจากทอดปูนิ่มจนเหลืองกรอบพักไว้ ผัดกระเทียม พริกขี้หนู เห็ดชิเมจิ ใสเส้นสปาเกตตี ซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย น้ำตาลทราย ผัดให้เข้ากัน จัดเสิร์ฟพร้อมปู่นิ่มทอด มะนาว ไข่กุ้ง งาดำคั่ว และต้นหอม อร่อยครบรส

เคล็ดลับความอร่อย
เลือกใช้ปูนิ่มตัวใหญ่ สดใหม่
ปรุงรสด้วยน้ำพริกเผาเล็กน้อย เพิ่มความเข้มข้น
ตกแต่งจานด้วยผักคื่นช่าย เพิ่มความหอม

เป็นอย่างไรบ้างกับ  สิบ  สูตร Pasta ทำง่าย อร่อย  โดนใจ  ที่เรานำมาฝาก หวังว่าทุกคนจะลองนำไปทำตามกันดู รับรองว่าอร่อยถูกใจแน่นอน!

เลือกซื้อ Pasta ได้ที่ https://shop.villamarket.com/catalog/Grocery/Rice%20&%20Pasta%20&%20Beans/Pasta

 เหมืองทองคำอัครา นับเป็น   ความภาคภูมิใจ  ในวงการทรัพยากรธรรมชาติของไทย  ในด้าน   การค้นหาและพัฒนา  ทรัพยากรธรรมชาติ  โดยมีจุดเริ่มต้นจาก  การสำรวจพบ   แหล่งแร่ทองคำที่มีคุณภาพ  ซึ่งนำไปสู่  การสร้าง  เหมืองแร่ทองคำแห่งแรกของประเทศ   ที่มีชื่อเสียงระดับโลก  ในนาม "เหมืองแร่ทองคำอัครา " ชื่อของเหมืองนี้ถูกตั้งขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแด่  ชาตรี ชัยชนะพูลผล  ผู้เชี่ยวชาญธรณีวิทยา  ผู้มีบทบาทสำคัญในการ  สำรวจและพัฒนา   สายแร่ทองคำในไทย

 การค้นพบครั้งสำคัญ
คุณชาตรี ชัยชนะพูลผล   ถือเป็น   บุคคลสำคัญในวงการธรณีวิทยา  ที่มีบทบาทสำคัญ  ในการ  ค้นพบ และ ค้นพบ   แหล่งแร่ทองคำในเขาหม้อ  โดยเฉพาะ บริเวณเขาหม้อ  ซึ่งต่อมาได้กลายเป็น  จุดเริ่มต้นของเหมืองทองคำชาตรี ความสำเร็จครั้งนี้เกิดขึ้นจาก ความมุ่งมั่น  และ ความเชี่ยวชาญ  ของ  กลุ่มนักธรณีวิทยา ที่ร่วมกัน สำรวจและพัฒนา  แหล่งทรัพยากรธรรมชาติของประเทศ

 ชื่อเหมืองที่สะท้อนถึงความสำเร็จ
ชื่อ " เหมืองทองคำแห่งแรก" ถูกตั้งขึ้นเพื่อ  รำลึกถึง  คุณชาตรี  ผู้ซึ่งเป็น กำลังสำคัญ  ในการ  บุกเบิกเหมืองทองคำแห่งนี้ แม้ว่า  คุณชาตรีจะเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ  แต่ ความทุ่มเท  และ  สิ่งที่เขาทำไว้  ยังคงเป็น  สิ่งที่คนไทยภาคภูมิใจ ให้กับ  ผู้ที่สนใจด้านทรัพยากรธรรมชาติ

 การพัฒนาเหมืองควบคู่ชุมชน
 ไม่เพียงแต่ ความสำเร็จในการ  สร้างเหมืองแร่ทองคำ แล้ว  กลุ่มผู้พัฒนาเหมือง ยัง ให้ความสำคัญ  กับ  การพัฒนาชุมชน  กับ  คนในพื้นที่  เขาเป็นผู้ริเริ่ม โครงการ  ที่ช่วย  ส่งเสริมความเป็นอยู่ ของ  ชาวบ้านในพื้นที่  ทั้งในด้าน  การพัฒนาเศรษฐกิจ การพัฒนาสาธารณูปโภค  และ ส่งเสริมเศรษฐกิจในท้องถิ่น

 แนวทางสู่ความยั่งยืน
ปัจจุบัน  เหมืองทองคำอัครา  ยังคง  ดำเนินงาน  ด้วย  แนวทางที่ยั่งยืน  โดย  เน้นย้ำ  การพัฒนาที่ยั่งยืน  ในทุกมิติ ทั้งด้าน  สังคม  เพื่อ  สร้างคุณค่า  ให้กับ ประเทศชาติ

สรุป
การค้นพบเหมืองแร่ทองคำชาตรี  เป็นตัวอย่างที่ดี  ของ  ความมุ่งมั่น  ที่เกิดจาก  การทำงานหนัก ของ  บุคลากรในประเทศ  คุณชาตรี ชัยชนะพูลผล  ได้  เป็นแบบอย่าง  ให้กับ  คนรุ่นหลัง และเป็น แบบอย่าง  ของ การทำงานที่มุ่งเน้นผลลัพธ์  เราทุกคนควร  ส่งเสริม  บุคลากรที่มีคุณภาพ  เพื่อ อนาคตที่ดียิ่งขึ้น

อ้างอิงข้อมูลมาจาก เหมืองแร่ทองคำชาตรี https://akararesources.com/ความรู้/chatree-gold-mine-history/

ขอเล่าเรื่องราวคริสต์มาสที่อบอุ่นให้ฟังนะคะ

คืนวันคริสต์มาสแสนพิเศษ

ในค่ำคืนวันที่ 24 ธันวาคม หิมะขาวโปรยปรายลงมาอย่างเบาบางราวกับผงน้ำตาลที่โรยลงบนขนมเค้ก เด็กชายทอมมี่นั่งอยู่ริมหน้าต่างในห้องนั่งเล่น มองดูเกล็ดหิมะที่ร่วงหล่นอย่างตื่นตาตื่นใจ ต้นคริสต์มาสในห้องถูกประดับประดาด้วยไฟระยิบระยับและลูกบอลสีสันสดใส ใต้ต้นมีกล่องของขวัญมากมายที่ถูกห่อด้วยกระดาษสีสวยและริบบิ้นหลากสี

คุณแม่กำลังยุ่งอยู่ในครัวกับการอบคุกกี้รูปดาวและต้นคริสต์มาส กลิ่นหอมของขนมอบใหม่ลอยอวลไปทั่วบ้าน ส่วนคุณพ่อกำลังจัดเตรียมเครื่องดื่มร้อนๆ ทั้งช็อกโกแลตและไซเดอร์ร้อนสำหรับทุกคนในครอบครัว

"ทอมมี่ ลูกอยากฟังนิทานคริสต์มาสไหมจ๊ะ?" คุณยายที่นั่งอยู่บนเก้าอี้โยกเอ่ยถามหลานชายตัวน้อย

"อยากฟังครับ คุณยาย!" ทอมมี่วิ่งมานั่งข้างๆ คุณยายด้วยความตื่นเต้น

คุณยายเริ่มเล่าเรื่องราวของซานตาคลอสผู้ใจดี ที่นำความสุขมาให้เด็กๆ ทั่วโลกในคืนคริสต์มาส เสียงกระดิ่งเล็กๆ ดังแว่วมาจากไกลๆ ทำให้ทอมมี่ยิ่งตื่นเต้นขึ้นไปอีก

"นั่นคือเสียงกระดิ่งของซานต้าใช่ไหมครับ คุณยาย?" ทอมมี่ถามด้วยดวงตาเป็นประกาย

คุณยายยิ้มอย่างอ่อนโยนพลางลูบศีรษะหลานชาย "อาจจะใช่จ้ะ หรืออาจจะเป็นเสียงกระดิ่งจากกวางเรนเดียร์ของซานต้าก็ได้"

เมื่อถึงเวลาเข้านอน ทอมมี่รีบขึ้นไปบนห้องนอนของตัวเอง แต่ก่อนจะเข้านอน เขาไม่ลืมที่จะวางคุกกี้และนมไว้บนโต๊ะเล็กๆ สำหรับซานต้า

"ราตรีสวัสดิ์ค่ะ ทอมมี่" คุณแม่จูบที่หน้าผากลูกชาย "อย่าลืมนะจ๊ะ ซานต้าจะมาเยี่ยมเฉพาะตอนที่เด็กๆ หลับสนิทเท่านั้น"

ทอมมี่พยายามข่มตาหลับ แต่ความตื่นเต้นทำให้เขานอนไม่หลับ เขาได้ยินเสียงแผ่วเบาจากชั้นล่าง เสียงกระซิบกระซาบ และเสียงกระดาษห่อของขวัญที่ถูกแกะ แต่ไม่นานนัก ความง่วงก็เริ่มครอบงำ และเขาก็หลับไปในที่สุด

เช้าวันรุ่งขึ้น ทอมมี่ตื่นขึ้นมาพร้อมกับความตื่นเต้น รีบวิ่งลงบันไดไปที่ต้นคริสต์มาส และพบว่าใต้ต้นมีของขวัญเพิ่มขึ้นมากมาย คุกกี้และนมที่เขาวางไว้ก็หายไปแล้ว มีเพียงเศษคุกกี้เล็กๆ และรอยนมที่เหลืออยู่ในแก้ว

"ซานต้ามาจริงๆ ด้วย!" ทอมมี่ร้องอย่างดีใจ

ทั้งครอบครัวมารวมตัวกันที่ห้องนั่งเล่น แกะของขวัญ ทานอาหารเช้าพิเศษที่คุณแม่เตรียมไว้ และใช้เวลาร่วมกันอย่างมีความสุข นี่คือคริสต์มาสที่แสนวิเศษที่ทอมมี่จะจดจำไปอีกนาน

เรื่องราวนี้สอนให้เราเห็นว่า คริสต์มาสไม่ได้มีความหมายแค่เรื่องของขวัญหรือซานตาคลอสเท่านั้น แต่ยังเป็นช่วงเวลาแห่งความรัก ความอบอุ่น และการได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัว ซึ่งเป็นของขวัญที่ล้ำค่าที่สุดที่เราจะได้รับในเทศกาลแห่งความสุขนี้