สังกัดเดิม โอม ภวัต ฟ้องแบรนด์ดัง

[Ailie662]

ต้นสังกัด โอม ภวัต ฟ้องแบรนด์ดัง หลังประกาศปลดจากพรีเซ็นเตอร์ จนถึงไม่ได้ทำผิดคำสัญญา ย้ำเป็นเรื่องในอดีตกาล-ไม่ตรงข้ามข้อบังคับ

วันที่ 20 เม.ย.2566 ที่ ชั้น21 ตึกจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ คุณสุจรรยา วิลเลกัส ผู้อำนวยการข้างกฎหมาย บริษัท เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด(มหาชน) ผู้แทน บริษัท จีเอ็มเอ็มโทรทัศน์ จำกัด อธิบายกรณีฟ้องดำเนินคดี บริษัท UGO Nutrition จำกัด ข้างหลังบริษัทดังที่กล่าวมาข้างต้นร่อนหนังสือประกาศปลด โอม ภวัต จิตต์สว่างดี ดาราหนังในสังกัดจีเอ็มเอ็มทีวี จบหน้าที่หน้าที่การเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับแบรนด์

สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา โอม ภวัต พระเอกซีรีส์ดัง เป็นหัวข้อถูกเอ๋ยถึงในโลกออนไลน์เกี่ยวกับความประพฤติในอดีตกาล โดยเจ้าตัวได้ออกมาสารภาพว่าเคยบูลลี่และก็แกล้งเพื่อนที่เป็นออทิสติก พร้อมด้วยได้ขออภัย รู้สึกไม่ถูก รวมทั้งรู้สึกเสียใจ เห็นด้วยว่าสถานะการณ์ตอนนั้นเป็นบทเรียนราคาแพง ซึ่งมานะปรับแต่งตัวให้ดีขึ้นมาตลอด

ถัดมาแบรนด์ดังที่กล่าวถึงแล้วได้ร่อนหนังสือประกาศปลดดารานำชายชายหนุ่ม โดยมีรายละเอียดใจความว่า "ประกาศการยุติบทบาทพรีเซ็นเตอร์ของคุณโอม ภวัต จิตต์สว่างดี ให้กับแบรนด์ UGO Nutrition จากเรื่องของคุณโอม ภวัต จิตต์สว่างดี ที่เป็นหลักสำคัญในโลกออนไลน์ตอนหลายเดือนที่ผ่านเลยมา ทางบริษัท UGO Nutrition ไม่เคยนิ่งนอนใจ แล้วก็ได้เป็นข้างติดต่อต้นสังกัดของนักแสดงอย่างเอาจริงเอาจังหลายครั้ง แต่แรกเริ่มสังกัดนิ่งเฉยต่อสิ่งที่บริษัทให้ความใส่ใจโดยตลอด"

"UGO Nutrition ให้ความเอาใจใส่กับความรัก คุณค่าความทัดเทียม เกียรติความเป็นคน และก็ความรับผิดชอบเราจึงตกลงใจยุติบทบาทพรีเซ็นเตอร์ของคุณโอม ภวัต จิตต์สว่างดี ตั้งแต่วันที่ 12 เมษายน 2566 เป็นต้นไป บริษัท ยูโก นูทรีชันน์ จำกัด" ดังที่เสนอข่าวสารไปแล้วโดย คุณสุจรรยา พูดว่า "ที่มาในวันนี้ก็เนื่องจากว่ากรณีที่ทางบริษัท UGO Nutrition จำกัด ได้มีประกาศยุติหน้าที่การเป็นพรีเซ็นเตอร์ของคุณโอม ภวัต จิตต์สว่างดี โดยที่ขาดเหตุผลอันควรสำหรับการที่เลิกหน้าที่พรีเซ็นเตอร์อันนั้น รวมทั้งทางจีเอ็มเอ็มโทรทัศน์มิได้มีการผิดสัญญาหรือผิดข้อตกลงใดๆกับทางบริษัท UGO ซึ่งการที่ UGO ออกประกาศลักษณะอย่างนั้นทำให้บริษัทและนักแสดงก็คือคุณโอม ได้รับความทรุดโทรม เสื่อมเสียความโด่งดัง"



"นับจากมีกรณีเอ๋ยถึงคุณโอมในสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งเกิดเรื่องในสมัยก่อนของคุณโอมในวัยเด็ก เป็นการปฏิบัติที่มิได้ตรงข้ามกฎหมายนะคะ จำเป็นต้องบอกแบบนี้ แล้วทางบริษัทเองไม่เคยเพิกเฉย เราไม่เคยนิ่ง พวกเรามีการติดต่อสนทนากับทาง UGO มาตลอด มีการสนทนาเพื่อหากติกาด้วยกัน"

"เราสนทนากันมาหลายคราว จนกระทั่งวันก่อนที่ทาง UGO จะมีประกาศตัวนั้นออกมาด้วยซ้ำ ด้วยเหตุผลดังกล่าวการที่ UGO มีประกาศเลิกบทบาทพรีเซ็นเตอร์ออกมา ทางบริษัทจีเอ็มเอ็มทีวีได้รับความเสื่อมโทรม ทางจีเอ็มเอ็มทีวีและนักแสดงเลยต้องขอความเป็นธรรมในกรณีนี้ เพื่อรักษาชื่อเสียงแล้วก็เกียรติของบริษัท รวมถึงศิลปิน โดยพวกเราอาจจะจำต้องขอพึ่งทางกรรมวิธีของศาลยุติธรรม เพื่อสงวนไว้ซึ่งสิทธิ์แล้วก็ความเสียหายในเรื่องของกิตติศัพท์ของบริษัท รวมทั้งศิลปินถัดไปจ้ะ"

เป็นได้ไหมว่า จากกระแสข่าวที่เกิดขึ้นอยู่กับโอมส่งผลกระทบกับทางแบรนด์ จึงส่งผลให้ตัดสินใจเลิกบทบาทการเป็นพรีเซ็นเตอร์ ถึงแม้สิ่งที่โอมทำจะไม่ผิดกฎหมาย แม้กระนั้นบางทีก็อาจจะผิดในแง่ของคุณธรรม? "อันนี้ทางพวกเราคงตอบไม่ได้ อาจจะต้องถามทาง UGO ค่ะ แต่ว่าในข้อตกลงสัญญาไม่ได้มีระบุเกี่ยวกับหัวข้อนี้เอาไว้ ตอนนี้ทางเราทำงานฟ้องไปแล้ว ยื่นฟ้องละเมิดค่าทำขวัญ ส่วนจำนวนเงินที่ฟ้องไป อันนี้คงไม่สามารถพูดได้เพราะเหตุว่าเป็นข้อมูลในคดี"

แม้ทาง UGO ติดต่อมาขอไกล่เกลี่ย? "จริงๆมันอยู่ในวิธีการของทางศาล อย่างไรทางคู่ความอีกฝั่งหนึ่งเขาย่อมจำต้องได้รับคำฟ้องอยู่แล้วค่ะ ขั้นตอนการทางศาลจำต้องเจอะกันอยู่แล้ว ถามว่านอกรอบไม่มีแล้วใช่ไหม มันยังตอบมิได้ พวกเรายังไม่เคยทราบ เนื่องจากว่าพวกเรายังไม่ได้รับการติดต่อมาค่ะ"

การที่ตกลงใจฟ้องเป็นเนื่องจากทางนั้นเขาร่อนจดหมายออกมาใช่ไหม? "เขาไม่ได้ร่อนจดหมายนะคะ อยู่ดีๆเขาก็ประกาศ ทั้งที่เราเจรจากันตลอดเรื่อยมา จนถึงก่อนวันประกาศเราก็ยังมีการคุยกัน แต่อยู่ดีๆเขาก็ประกาศ ซึ่งทางพวกเราไม่รู้จักค่ะ"

ภายหลังที่เขาประกาศไปแล้ว บริษัทได้รับผลกระทบเยอะไหม? "ก็จากที่สื่อออกข่าวสารก็มีผลต่อกับความโด่งดังของน้องและก็บริษัทค่ะ (จากดราม่านี้ยังมีผลต่อกับสินค้าอื่นๆหรืองานอื่นๆของโอมอีกไหม?) ปัจจุบันนี้ยังไม่เป็นผลกระทบจ้ะ"

มองกระแสดราม่าของโอมยังไง เพราะเหตุว่าหลายคนเห็นว่าบริษัทมิได้ออกมา Take Action อะไรเลย? "ทางบริษัทคิดว่ามันเป็นเรื่องที่เกิดในสมัยก่อนและเป็นเรื่องในวัยเด็ก โดยทางโรงเรียนก็ได้ลงโทษตามกฎกติกาของโรงเรียน เขาได้รับการลงโทษไปแล้ว น้องเองก็ได้ขออภัยไปแล้ว รวมทั้งมันไม่ใช่เกิดเรื่องที่กระทำผิดต่อข้อบังคับว่ากันอย่างงั้นเถิด ด้วยเหตุนี้พวกเราไม่ได้เฉย แต่ว่านี่คือเหตุผลอย่างที่บอกว่าเป็นเรื่องในสมัยก่อน และเขาได้รับการลงอาญาตามวัยของเขา เป็นขณะนั้นเขายังเด็กอยู่"

แต่คนก็ยังขุดเรื่องนี้ออกมาอีก เนื่องจากอยากที่จะให้บริษัทออกมาพูดบ้าง? "คืออันนี้มีความคิดว่าในด้านของคนที่ใช้สื่อสังคมออนไลน์เราอาจจะห้ามไม่ได้ว่าคนไหนกันจะคิดอย่างไร แต่ในทางของบริษัทดูที่ความเป็นจริงของสิ่งที่เกิดขึ้น ความเป็นคนจ้ะ คือมันจำเป็นต้องมองจากข้อสรุปที่เกิดมากยิ่งกว่าเดิมกว่าที่จะไปวินิจฉัยตามกระแสสื่อสังคมจ้ะ"

ในขณะนี้สภาพจิตใจของโอมเป็นอย่างไรกันบ้าง? "ก็อาจไม่ดีหรอกจ้ะ (โอมโดนโจมตีในโซเชียลเยอะแยะ เขามาขอให้ดูแลเรื่องกฎหมายไหม?) อันนี้ยังไม่เคยทราบเรื่องนะคะ เพราะหากเราจะมองก็อาจจะเป็นในแง่ของหัวข้อการทำที่ฝ่าฝืนหรือขัดต่อกฎหมาย ฝ่าฝืนสิทธิของน้อง เราถึงจะดูจ้ะ"

การที่บริษัทยื่นฟ้องทางแบรนด์นั้น กลัวคนจะคิดว่าค่ายป้องกันโอมเหลือเกินไหม? "จำต้องบอกว่าอันนี้เป็นเรื่องของข้อเท็จจริงแล้วก็เป็นเรื่องของธุรกิจนะคะ มันเกิดขึ้นจริง อย่างกลางแจ้งว่าพวกเรามิได้เป็นฝ่ายยุติการเป็นพรีเซ็นเตอร์ ดังนั้นอันนี้ก็ขึ้นอยู่กับกระแสสังคมจะวินิจฉัยจากความเป็นจริงที่เกิดขึ้นจ้ะ"
โอม ภวัต
ขอบคุณข้อมูลจาก https://freelydays.com/13731/